ข่าว AI รอบโลก – สัปดาห์ที่ 4 เดือนมีนาคม 2022

AI สัญชาติไทยบุก! อุตสาหกรรมสัตว์น้ำ นับจำนวนลูกสัตว์น้ำด้วย AI เร็วกว่าคนถึง 300 เท่า

อุตสาหกรรมสัตว์น้ำเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่สำคัญต่อระบบเศรษฐกิจไทย โดยข้อมูลจากกลุ่มสถิติการประมงระบุว่าสามารถสร้างรายได้มูลค่าปีละไม่ต่ำกว่า 100,000 ล้านบาท ปกติในการซื้อขายลูกสัตว์น้ำ หากมีจำนวนน้อย จะใช้วิธีการนับลูกปลา แต่ในอุตสาหกรรมซื้อขายลูกสัตว์น้ำเป็นจำนวนหลักหมื่นถึงหลักแสนตัว จึงใช้วิธีการสุ่มนับด้วยมือ ซึ่งต้องนับหลายครั้งทำให้เสียเวลาและเกิดการคลาดเคลื่อนขึ้นได้
SeaThru COUNTER เป็นการทำงานร่วมกันของปัญญาประดิษฐ์ (AI) กับเทคโนโลยีการถ่ายภาพความละเอียดสูง Computer Vision โดยการสร้างสภาวะแสงสว่างใต้น้ำให้เพียงพอเพื่อให้ AI ทำงานได้อย่างแม่นยำ ซึ่งสามารถนับสัตว์น้ำได้ 15 ชนิด ซึ่งในกระบวนการนับจะใช้เวลาประมาณ 6-15 วินาที คิดเป็น 0.75 วินาทีต่อการนับหนึ่งตัว ซึ่งเร็วกว่าการใช้คนนับ 30 – 300 เท่า ประหยัดเวลาได้วันละหลายหมื่นชั่วโมงต่อปี มีความแม่นยำ 95 % – 97 %

อ้างอิง : https://www.tnnthailand.com/news/tech/107787/

 

กองทัพสหรัฐต้องการใช้ AI ตัดสินใจแทนมนุษย์ในสงคราม

จากเหตุการณ์ระเบิดที่สนามบินคาบูลเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้วทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก โดยปัญหาที่เจอในช่วงเวลานั้นคือโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้นั้นมีห้องรักษาไม่พอกับจำนวนผู้บาดเจ็บทำให้ต้องเกิดการตัดสินใจในการเลือกผู้บาดเจ็บที่จะได้รับการรักษาก่อนและผู้บาดเจ็บที่จะต้องรอ สำนักโครงการวิจัยขั้นสูงด้านกลาโหมของสหรัฐ อเมริกา (DARPA) ได้เล็งที่จะนำ AI มาใช้ในการตัดสินใจดังกล่าวผ่านโครงการใหม่ที่มีชื่อว่า In the Moment เป็นโครงการที่มีเป้าหมายในการพัฒนาเทคโนโลยีที่สามารถช่วยในการติดสินใจที่สถานการณ์ที่กดดันโดยใช้อัลกอริทึมร่วมกับข้อมูลที่มีอยู่ซึ่งเขาได้บอกว่าวิธีการนี้จะสามารถช่วยชีวิตคนได้จากการลดอคติที่มีในการตัดสินใจ โดยโครงการนั้นมีแผนที่จะสร้างอัลกอริทึมได้ช่วยในการตัดสินใจทางการทหารในสองสถานการณ์ได้แก่ การบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย และการบาดเจ็บหมู่อย่างเช่นเหตุการณ์ในคาบูล Matt Turek ผู้จัดการของโครงการได้บอกว่า AI นั้นสามารถช่วยประมวลผลและค้นหาทรัพยาการที่ต้องการจากโรงพยาบาลในระยะใกล้เคียงเช่น ยารักษา เลือด และอุปการณ์ทางการแพทย์ที่พร้อมใช้งาน เขายังบอกอีกว่าตัวอัลกอริทึมนั้นมีความสามารถที่ในการแก้ไขปัญหาที่เก่งกว่าที่มนุษย์คนนึงจำทำได้
อย่างไรก็ตามมีนักจริยธรรมได้ตั้งคำถามกับโครงการนี้เช่น ข้อมูลที่ใช้ในการพัฒนาอัลกอริทึมนั้นมีการให้ความสำคัญกับคนใดคนนึงมากกว่าหรือในช่วงเวลาที่ต้องตัดสินใจทหารที่ทำหน้าที่ตรงนั้นจะทำทุกอย่างตามที่อัลกอริทึมบอกหรือเปล่าไม่ว่าวิธีการนั้นจะขัดแย้งกับสามัญสำนึก รวมไปถึงถ้าการติดใจเหล่านั้นเป็นเหตุให้บางคนต้องเสียชีวิตใครจะเป็นคนที่รับผิดชอบ ในขณะเดียวกัน Applin นักมานุษยวิทยาเกี่ยวกับจริยธรรมของ AI ได้บอกว่ามันเป็นเรื่องที่สำคัญมากในการตรวจสอบว่าอัลกอริมทึมนั้นมีอคติหรือเปล่าซึ่งมันเคยเกิดขึ้นหลายครั้งเช่น มีอัลกอริทึมเกี่ยวกับการบริการสุขภาพได้ให้ความสำคัญกับคนขาวมากกว่าคนดำ

อ้างอิง : https://www.washingtonpost.com/technology/2022/03/29/darpa-artificial-intelligence-battlefield-medical-decisions/

 

AI ชนะแชมป์โลก! เอาชนะ 8 แชมป์โลกไพ่บริดจ์ได้สำเร็จ

AI เอาชนะแชมป์เปี้ยนบริดจ์ได้ 8 คน ซึ่งบริดจ์เป็นเกมที่ถือว่ามนุษย์เคยเหนือกว่าหุ่นยนต์
NukkAI ได้ประกาศในการแข่งขันไพ่บริดจ์ที่ ว่า AI ชนะเลิศ ในการแข่งขันที่จัดขึ้นในปารีส
โดยในการแข่งจะแบ่งออกเป็น 2 การแข่งขัน คือ มนุษย์ที่เป็นแชมป์แข่งกับหุ่นยนต์ที่เก่งกว่าหุ่นยนต์ตัวอื่นแต่ไม่เก่งเท่ามนุษย์ และการแข่งขันของ NukkAI ที่แข่งกับหุ่นยนต์ตัวนั้น โดยการแข่งขันสองแบบนี้ ทั้งมนุษย์และ NukkAI จะได้ไพ่เหมือนกัน กล่าวคือ NukkAI จะทำตัวเหมือนกับมนุษย์ในอีกการแข่งขันหนึ่ง และแข่งกับคู่ต่อสู้ที่เหมือนกันทุกประการ เพื่อนำมาเปรียบเทียบว่าเกมส์ที่เหมือนกัน คู่แข่งคนเดียวกัน NukkAI กับ มนุษย์ที่เป็นแชมป์ คนไหนไหนจะเก่งกว่ากัน ซึ่งผลคะแนนแตกต่างกันไปในแต่ละรอบ แต่โดยเฉลี่ยแล้ว NukkAI เอาชนะไปได้ด้วย 67 ใน 80 รอบ (หรือ 83%)
นักวิจัย AI ผู้ร่วมก่อตั้ง NukkAI กล่าวว่า NukkAI ถือว่าเป็น AI ยุคใหม่ เพราะว่ามันสามารถ​”อธิบาย”การเล่นในระหว่างการเล่นได้ ซึ่งต่างจาก AlphaGO ที่ใช้วิธีการเรียนรู้ด้วยการเล่นเป็นล้านครั้งเพื่อเรียนรู้ และไม่สามารถอธิบายเหตุผลในการเล่นแก่มนุษย์ได้ เรียกว่าเป็นแบบ ‘Blackbox’
แต่ว่า NukkAI ใช้ระบบ ‘White box’ หรือ neurosymbolic ในการเรียนรู้ ซึ่งเป็นการเรียนรู้กฎในการเล่นก่อน จากนั้นค่อยๆเรียนรู้เพิ่มไปในระหว่างการฝึกฝน มันเป็นการผสมผสานระหว่าง rule-based และ deep learning วิธีการที่ Nook ใช้จะใกล้เคียงกับมนุษย์มากกว่า
เนื่องจากการเล่นบริดจ์นั้นจำเป็นต้องอาศัยการสื่อสารกันระหว่างผู้เล่น การอธิบายการเล่นจึงสำคัญมาก ซึ่งความก้าวหน้าของ AI นี้จะเป็นก้าวสำคัญในด้านต่างๆ เช่น สุขภาพ หรือ หุ่นยนต์ช่วยขับขี่ ที่จำเป็นต้องเข้าใจถึงพฤติกรรมของผู้อื่น

อ้างอิง : https://www.theguardian.com/technology/2022/mar/29/artificial-intelligence-beats-eight-world-champions-at-bridge

 

AI ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวจากข้อมูลวิดีโอในกล้องวงจรปิด

ในปัจจุบันนี้ ข้อมูลจากกล้องวงจรปิดได้มีการใช้กันอย่างมากมาย เช่น การตรวจจับคนที่ไม่ใส่หน้ากาก เป็นต้น ซึ่งก่อนจะนำข้อมูลไปใช้ในการวิเคราะห์ จะต้องมีการทำการเบลอใบหน้าเพื่อความเป็นส่วนตัวของคนในชุดข้อมูลก่อน แต่ในบางครั้งอาจจะเกิดความผิดพลาดที่ไม่ได้เบลอใบหน้าได้ ส่งผลให้ความเป็นส่วนตัวของคนในชุดข้อมูลลดลง
ดังนั้นนักวิจัยจาก MIT’s Computer Science and Artificial Intelligence Laboratory (CSAIL) ร่วมกับสถาบันอื่นๆ ได้สร้างระบบที่สามารถรับประกันความเป็นส่วนตัวจากข้อมูลวิดีโอของกล้องวงจรปิดได้ โดยระบบนี้มีชื่อเรียกว่า Privid
ซึ่งโดยปกติแล้ว เวลานักวิเคราะห์ข้อมูลจะใช้ข้อมูลวิดีโอจากกล้องวงจรปิด จะสามารถเข้าถึงวิดีโอที่ไม่ปกปิดความเป็นส่วนตัวได้ทั้งหมด แต่ว่าระบบนี้จะทำให้นักวิเคราะห์เข้าถึงข้อมูลที่จำเป็นได้เพียงเท่านั้น
ในด้านวิธีการทำงาน Privid จะไม่ได้ทำงานกับวิดีโอทั้งก้อน แต่จะแบ่งวิดีโอออกเป็นส่วนย่อยๆ จากนั้นจึงนำ Code สำหรับการประมวลผล มาปรับใช้กับส่วนที่แบ่งออกมา และเมื่อได้ผลลัพธ์ Privid จะรวมผลลัพธ์จากส่วนย่อยๆ มาเป็นผลสรุปเดียวและเพิ่ม noise เพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวได้
สำหรับส่วนของ Code ที่จะนำมาประมวลผล ทางผู้สร้าง Privid ได้มีการสร้าง Code ไว้เพื่อรองรับการประมวลผลบางส่วนอยู่แล้ว แต่ทางผู้วิเคราะห์ ก็สามารถนำ Deep Neural Networks ของตัวเองมาใช้ได้ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ลึกซึ้งขึ้นได้ ซึ่งความแม่นยำของ Privid อยู่ที่ 79 ถึง 99 เปอร์เซ็นต์

อ้างอิง : https://techxplore.com/news/2022-03-tool-privacy-surveillance-footage.html

 

AI ตรวจจับเบาหวานและความเสี่ยงหลอดเลือดหัวใจ

ทาง Google ได้ทำการศึกษาร่วมกับหน่วยงานทางการแพทย์ในประเทศไทยเพื่อศึกษาผู้ป่วยกว่าหนึ่งแสนรายได้การใช้งานเทคโนโลยีประเมินโรคจอประสาทตาอัตโนมัติ (ARDA) เทคโนโลยีที่ใช้ AI ในการช่วยบุคลากรทางการแพทย์ตรวจจับอาการเบาหวานขึ้นตา ซึ่งผลลัพธ์ออกมาว่า ARDA มีความแม่นยำและความปลอดภัยในการใช้ตรวจพบคนที่มีอาการเบาหวานขึ้นตา โดยการศึกษานั้นได้ทำงานทดสอบกับผู้ร่วมทดสอบในหลากหลายภูมิภาคบ่งบอกถึงความสามารถในการเข้าถึงและใช้งานเทคโนโลยีนี้ได้ง่าย นอกเหนือไปจากการตรวจพบอาการเบาหวานขึ้นแล้วการใช้เทคโนโลยีนี้ร่วมกับ deep learning ยังช่วยในการแสดงให้เห็นอาการที่บ่งบอกถึงความเสี่ยงเกี่ยวกับหลอดเลือดหัวใจอีกด้วยเช่น ระดับน้ำตาลในเลือดและระดับคอเรสเตอรอลที่สูง มากกว่าไปกว่านั้นทาง Google ยังมีแผนที่จะศึกษาการตรวจจับโรคเบาหวานด้วยเพียงภาพถ่ายจากโทรศัพท์อีกด้วย

อ้างอิง : https://blog.google/technology/health/check-up-ai-developments-2022/

 

เครื่องมือ AI แสดงภาพถ่าย 2 มิติเป็นฉาก 3 มิติรอบด้านในไม่กี่วินาที

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว Nvidia ได้ประกาศเครื่องมือ AI ใหม่ ที่สามารถนำภาพ 2 มิติ ที่เป็นฉากเดียวกันจากมุมต่างกันหลายๆภาพ มาแปลงให้เป็นภาพสามมิติแบบดิจิทัลได้เกือบในทันที
ความก้าวหน้านี้ต่อยอดจากการวิจัยของ UC Berkeley, Google และ UC San Diego ซึ่งใช้โครงข่ายประสาทเทียมในการสร้างภาพ 3 มิติเสมือนจริงของฉากต่างๆ โดยใช้ชุดภาพนิ่ง 2 มิติขนาดเล็กในมุมมองต่างๆ เป็นแหล่งข้อมูล และใช้ neural radiance fields tool หรือที่เรียกว่า NeRF มาใช้ในการประมาณข้อมูลสี/แสง ของฉากที่ขาดหายไปจากข้อมูลอินพุต นำมาเติมในช่องว่างที่ขาดหายไปเพื่อให้สามารถสร้างเป็นภาพเสมือนจริงแบบ 3มิติได้
โดย Instant NeRF ของ Nvidia ที่พัฒนาขึ้นนี้ ได้มีการพัฒนาและปรับให้เหมาะสมสำหรับ GPU ของ Nvidia ทำให้ได้ผลลัพธ์คุณภาพสูงโดยใช้โครงข่ายประสาทเทียมขนาดเล็กที่ทำงานอย่างรวดเร็ว ทำให้ช่วยลดเวลาการเรียนรู้ข้อมูลของ AI และการเรนเดอร์ลงได้
ซึ่ง Instant NeRF นี้ อาจมีความสำคัญต่อภาพ 3D เทียบเท่ากับการใช้กล้องดิจิตอลและการบีบอัดภาพ JPEG ในภาพ 2D ซึ่งเพิ่มความเร็ว ความง่าย และการเข้าถึงของการจับภาพและการแชร์ 3D อย่างมาก และบริษัทยังแนะนำว่าเทคโนโลยีนี้สามารถนำไปใช้ในการฝึกหุ่นยนต์และรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยตัวเองเพื่อให้เข้าใจวัตถุในโลกแห่งความเป็นจริงได้ดีขึ้น เช่นเดียวกับ การสร้างเนื้อหาเสมือนจริง การประชุมทางวิดีโอ การทำแผนที่ดิจิทัล สถาปัตยกรรม และความบันเทิง เป็นต้น

อ้างอิง : https://newatlas.com/photography/nvidia-instant-nerf/

 

Ozmo หุ่นยนต์เช็ดกระจกบนตึกสูง อนาคตของการทำความสะอาดตึก รวดเร็วและปลอดภัยต่อแรงงานมนุษย์มากกว่า

Ozmo เป็นเครื่องมืออุตสาหกรรมชั้นนำในการทำความสะอาดหน้าต่างอัตโนมัติ สมองของ Ozmo ผสมผสานความสามารถของ ปัญญาประดิษฐ์ที่สร้างขึ้นเองและวิธีการการเรียนของ machine learning มี Lidar หรือ Light Detection and Ranging ซึ่งเป็นเซ็นเซอร์ตรวจจับระยะไกลที่แม่นยำคอยเป็นดวงตาให้กับมัน Ozmo จึงสามารถสแกนพื้นผิวอาคารได้อย่างประณีต จดจำทุกส่วนโค้งเว้าและขอบของพื้นที่และสามารถกะแรงในการทำความสะอาดให้เหมาะสมกับพื้นผิวได้ นอกจากนี้มันยังสามารถทำงานได้ในสภาวะแวดล้อมที่แปรปรวนเนื่องจากมีความสามารถในการเรียนรู้และปรับตัวได้ค่อนข้างสูง
หุ่นยนต์ Ozmo ค่อนข้างตอบโจทย์ผู้ใช้งานในเรื่องของประสิทธิภาพการทำงาน ลดการใช้แรงงานมนุษย์ในงานอันตราย ความเสถียรสูงและสามารถควบคุมการเปิดและปิดตัวเครื่องได้จากสถานีควบคุม

อ้างอิง : https://www.tnnthailand.com/news/tech/109133/

 

ชุดหูฟัง AI วิเคราะห์สมองของนักบินอวกาศเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเดินทางในอวกาศในระยะยาว

ในการปล่อยตัวจรวด SpaceX Dragon ที่มีกำหนดออกบินไปยังสถานีอวกาศนานาชาติ (ISS) ในสัปดาห์นี้ จะมีการส่งชุดหูฟัง EEG เพื่อทำภารกิจวิเคราะห์กิจกรรมทางระบบประสาทของนักบินอวกาศ ในการทำความเข้าใจว่าสภาวะไร้น้ำหนักส่งผลต่อสมองอย่างไร
ซึ่งภายในชุดหูฟัง EEG ประกอบไปด้วยเซ็นเซอร์ประมาณ 500 ตัว ที่ดูเหมือนแปรงขนาดเล็ก ทำหน้าที่รับสัญญาณไฟฟ้าขนาดเล็กที่เกิดขึ้นเมื่อเซลล์ประสาทในสมองสื่อสารกัน หลังจากนั้นปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI จะทำหน้าที่ตัดสัญญาณและตีความข้อมูล โดยนักบินอวกาศในภารกิจ AX 1 จะต้องทำการสวมใส่ชุดหูฟัง EEG เป็นเวลา 20 นาที 3 ช่วงเวลาและทำตลอดระยะเวลา 8 วัน ที่ปฏิบัติภารกิจอยู่บนสถานีอวกาศนานาชาติ ข้อมูลทั้งหมดจะถูกส่งกลับมายัง brain.space และนักวิจัยของมหาวิทยาลัย Ben-Gurion เพื่อทำการวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้จาก AI และจะมีการทำการทดลองเช่นเดียวกันนี้เมื่อนักบินอวกาศเดินทางกลับสู่พื้นโลก เพื่อหาความแตกต่างของข้อมูลทั้ง 2 ชุด
ในปัจจุบันยังไม่ค่อยมีข้อมูลความรู้เกี่ยวกับผลกระทบของการเดินทางในอวกาศต่อสมอง แม้ว่าโดยทั่วไปแล้วมนุษย์อวกาศจะมีการวัดสำหรับการเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยาต่างๆ ตั้งแต่อัตราการเต้นของหัวใจไปจนถึงมวลกล้ามเนื้อ แต่ก็ยังไม่มีข้อมูลระยะยาวคุณภาพสูงเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของระบบประสาทในระหว่างภารกิจในอวกาศ ซึ่งข้อมูลนี้อาจมีความสำคัญในการทำความเข้าใจว่าสมองปรับตัวอย่างไรกับการเดินทางในอวกาศในระยะยาว

อ้างอิง : https://www.tnnthailand.com/news/tech/109521/

 

AI ช่วยออกแบบอาวุธไฮเปอร์โซนิก

ทีมนักวิจียชาวจีนนำโดยศาสตราจารย์ Le Jialing กับ หน่วยงาน China Aerodynamics Research and Development Centre มณฑลเสฉวน ประเทศจีน ได้ทำการเผยแพร่งานวิจัยเกี่ยวกับการนำ AI มาช่วยในการออกแบบอาวุธไฮเปอร์โซนิค ลงในวารสาร Journal of Propulsion Technology โดยมีการนำ AI เทคนิค unsupervised segmentation เข้ามาช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อค้นหาลักษณะของข้อมูลที่เป็นคลื่นกระแทก (shock wave) จากรูปภาพที่ได้จากการทดลองการเคลื่อนไหวของวัตถุในความเร็วระดับไฮเปอร์โซนิกหรือความเร็วที่มากกว่าเสียงไม่น้อยกว่า 5 เท่าตัว ผลจากการทดลองในอุโมงค์ลมนั้นแสดงให้เห็นว่า AI นั้นสามารถแยกแยะคลื่นกระแทกได้ถึง 85% จากผลลัพธ์ทั้งหมดโดยผู้เชี่ยวชาญและยังให้ความแม่นยำมากกว่าประมาณ 4 เท่าเมื่อเทียบกับซอฟ์ตแวร์คอมพิวเตอร์แบบดั้งเดิม ด้วยความสามารถนี้ทำให้ AI นั้นถูกนำมาใช้ในการทำนายการเกิดคลื่นกระแทกซึ่งนำมาสู่การออกแบบอาวุธไฮเปอร์โซนิกให้ดีขึ้นในด้านการไหลของอากาศ นอกจากนี้เทคโนโลยีไฮเปอร์โซนิกยังสามารถนำมาใช้ในด้านการขนส่งได้อีกด้วยโดยเป้าหมายอย่างเป็นทางการของจีนนั้นได้กำหนดว่าภายในปี 2035 จะสามารถสร้างเครื่องบินไฮเปอร์โซนิกที่นำผู้โดยสารไปที่ไหนก็ได้ในโลกด้วยเวลาไม่เกินสองชั่วโมง อย่างไรก็ตามเป้าหมายดังกล่าวก็ยังเป็นปัญหาที่ท้าทายเนื่องจากมีนักบินจำนวนน้อยมากที่เชี่ยวชาญในการบินที่ความเร็วเหนือเสียงสำหรับสายการบินพาณิชย์ แต่นักวิทยาศาสตร์จากจีนนั้นเชื่อว่า AI จะสามารถเข้ามาช่วยในปัญหานั้นได้

อ้างอิง : https://www.scmp.com/news/china/science/article/3171533/ai-its-way-replacing-humans-hypersonic-weapon-design-chinese?module=perpetual_scroll_0&pgtype=article&campaign=3171533

—————————————————————————————-

ทั้งหมดเป็นข่าวที่น่าสนใจใน 25 – 31 มีนาคม 2565 พบกันใหม่ในสัปดาห์หน้านะคะ : )

หากมีข้อสงสัย ติชมสามารถ ติดตามและสอบถามได้ที่
 : AIไทยสามารถ โดย AI for all Thailand



เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

อนุญาตทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • Always Active

บันทึก