ข่าว AI รอบโลก – สัปดาห์ที่ 2 เดือนพฤษภาคม 2022

“ฟ้าฝน” แอปฯ พยากรณ์ ตัวช่วยเกษตรกรไทยฝ่าวิกฤตสภาพอากาศ

สภาพอากาศถือเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญของการทำเกษตรกรรมในประเทศไทย ซึ่งเป็นปัจจัยที่ควบคุมได้ยาก เพราะไม่สามารถคาดการณ์สภาพอากาศที่แม่นยำได้ ส่งผลเกษตรกรไม่ทันได้เตรียมตัวจนนำไปสู่ความเสียหายของพืชผลทางการเกษตร

แอปพลิเคชัน “ฟ้าฝน” จึงถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อให้เกษตรกรไทยหลุดพ้นจากวิกฤตดังกล่าว ซึ่งแอปพลิเคชันนี้จะทำให้เกษตรกรสามารถเข้าถึงข้อมูลเกี่ยวกับสภาพภูมิอากาศ รวมทั้งยังเป็นเหมือนผู้ช่วยในการวางแผนเรื่องการเพาะปลูก และค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันที่ทุกคนสามารถดาวน์โหลดได้ฟรีไม่ต้องมีค่าใช้จ่าย

แอปพลิเคชันฟ้าฝน เกิดจากการรวบรวมฐานข้อมูลขนาดใหญ่ด้านสภาพภูมิอากาศ ในเขตเส้นศูนย์สูตรของภาคเอกชน ผสานกับความร่วมมือจากภาครัฐ ซึ่งความพิเศษมากกว่าการพยากรณ์อากาศทั่ว ๆ ไป เนื่องจากสามารถพยากรณ์อากาศได้อย่างแม่นยำและค่อนข้างละเอียด เนื่องจากการใช้เทคโนโลยีขั้นสูง โดยการนำข้อมูลจากดาวเทียมที่มีอยู่ทั่วโลกจำนวน 9 ดวง ซึ่งเป็นดาวเทียมที่โคจรอยู่บริเวณเส้นศูนย์สูตร มาประมวลผลผ่านเซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่ ช่วยให้การคาดการณ์สภาพอากาศ สามารถพยากรณ์อากาศในพื้นที่ระดับตารางกิโลเมตรได้

นอกจากเป็นประโยชน์สำหรับเกษตรกรแล้ว แอปพลิเคชันฟ้าฝน ยังสามารถระบุพิกัด ระบุตำแหน่งที่ต้องการให้พยากรณ์อากาศได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นบ้าน ที่ทำงานหรือสถานที่ที่เรากำลังเดินทางไป ซึ่งสามารถตั้งค่าได้ง่าย ๆ ผ่านแอปพลิเคชัน โดย ปัจจุบันมีผู้ดาวน์โหลดแล้วกว่า 150,000 คน และมีจำนวนใช้งานกว่า 5 ล้านครั้งต่อวัน

อ้างอิง : https://www.tnnthailand.com/news/tech/113043/

 

ไอร์แลนด์แต่งตั้งทูตด้าน AI คนแรก

รัฐบาลประเทศไอร์แลนด์ได้แต่งตั้งทูตด้าน AI คนแรกของประเทศ โดย ดร.แพทริเซีย สแกนลอน จะเข้ามารับตำแหน่งนี้และจะได้รับมอบหมายให้สื่อสารกับธุรกิจ โรงเรียน และสถาบันต่าง ๆเกี่ยวกับผลประโยชน์และความเสี่ยงของ AI ซึ่ง ดร.แพทริเซีย นั้นเป็นผู้ก่อตั้งและประธานบริหารของ SoapBox Labs ซึ่งใช้ AI ในการพัฒนาแอปพลิเคชันด้านการพัฒนาเสียงพูดและ speech recognition ที่ออกแบบมาสำหรับเสียงของเด็กโดยเฉพาะ ปัจจุบัน AI เข้ามามีบทบาทในชีวิตเรามากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งก็มีคนจำนวนมากที่มีข้อกังวลด้านจริยธรรมเกี่ยวกับเทคโนโลยี AI ในด้านความเป็นส่วนตัว การเฝ้าระวัง อคติ และการเลือกปฏิบัติของ AI นอกจากนี้ยังมีความกังวลว่าระบบอัตโนมัติจะส่งผลกระทบต่อการว่างงานอีกด้วยโดยที่คนงานอาจจะถูกแทนที่ด้วยเครื่องจักรจำนวนมากได้ในอนาคต

รัฐบาลไอร์แลนด์ได้กล่าวว่าทูต AI คนใหม่นี้จะเป็นผู้นำการสนทนาระดับชาติเกี่ยวกับบทบาทของ AI ในชีวิตประจำวัน โดยเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของไอร์แลนด์ในการใช้เทคโนโลยีนี้อย่างมีจริยธรรม ซึ่งมีการแถลงการณ์เปิดตัวที่โรงเรียนมัธยมเซนต์โจเซฟในดับลิน โดยมี โรเบิร์ต ทรอย รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศเข้ามาร่วมเปิดงาน ดร.แพทริเซีย ได้กล่าวได้งานแถลงการณ์เปิดตัวว่า “ปัญญาประดิษฐ์มีอิทธิพลต่อชีวิตประจำวันของเราในหลายๆ ด้าน และมีศักยภาพที่จะสร้างผลกระทบเชิงบวกอย่างมหาศาลให้กับทั้งธุรกิจและสังคมเมื่อเข้าใจถึงประโยชน์และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น” และยังได้กล่าวอีกว่า “ฉันเห็นโอกาสที่ชัดเจนสำหรับไอร์แลนด์ที่จะเป็นผู้นำในการสนับสนุนและนำแนวทางจริยธรรมมาใช้กับ AI โดยให้ความสำคัญกับมนุษย์เป็นอันดับแรก” ซึ่งเขาจะเข้ารับตำแหน่งทันทีและจะทำงานร่วมกับกรมวิสาหกิจการค้าและการจ้างงานตามกำหนดการในบทบาทใหม่ของเธอ

อ้างอิง : https://www.rte.ie/news/technology/2022/0510/1297202-ai-ambassador/

 

 6 มหาวิทยาลัยชั้นนำ จัดตั้ง AI Sandbox แห่งแรกของไทย มุ่งพัฒนาทักษะด้าน AI

เพื่อผลิตบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญด้านปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งเป็นที่ต้องการของภาคอุตสาหกรรมอย่างสูง สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) และ มหาวิทยาลัยซีเอ็มเคแอล (CMKL) พร้อมด้วย 4 มหาวิทยาลัยชั้นนำของไทย จึงร่วมกันจัดตั้ง “สถาบันวิศวกรรมปัญญาประดิษฐ์” ขึ้น สถาบันวิศวกรรมปัญญาประดิษฐ์ เกิดจากความร่วมมือระหว่าง สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) และ มหาวิทยาลัยซีเอ็มเคแอล (CMKL) พร้อมด้วย 4 มหาวิทยาลัยชั้นนำ ได้แก่ มหาวิทยาลัยมหิดล,มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์,มหาวิทยาลัยขอนแก่น,มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยมีเป้าหมายร่วมกันคือ ปั้นบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญด้านปัญญาประดิษฐ์, ผลักดันการสร้างงานวิจัยและนวัตกรรมเพื่อรองรับเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของประเทศไทยในยุคอุตสาหกรรม 4.0

ศ. ดร.ศุภชัย ปทุมนากุล รองปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยว่า อว. มีนโยบายสนับสนุนการพัฒนาการศึกษาและเสริมสร้างนวัตกรรมในระดับอุดมศึกษา โดยเฉพาะการทำงานวิจัยด้านปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) เนื่องมาจากในยุคอุตสาหกรรม 4.0 ทั่วโลกได้นำปัญญาประดิษฐ์มาใช้อย่างแพร่หลายทำให้เกิดการแข่งขันทางเทคโนโลยีในรอบใหม่ ซึ่งถือว่าเป็นโอกาสของประเทศไทยในการแข่งขันในเวทีโลก

ดังนั้น เพื่อลดช่องว่างในการแข่งขันระหว่างประเทศไทยกับประเทศที่พัฒนาแล้ว การพัฒนางานวิจัยและกำลังคนรองรับการเติบโตของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์จึงถือเป็นส่วนสำคัญในการวางเป็นรากฐานเพื่อพัฒนาศักยภาพและยกระดับอุตสาหกรรมในประเทศไทย สอดรับกับเป้าหมายสู่การเป็นประเทศพัฒนาแล้วภายในปี พ.ศ. 2580

อ้างอิง : https://www.springnews.co.th/pr-news/news/824254

 

ประชุมออนไลน์ในชุดนอนด้วยแอปของ Embodyme

การประชุมทางวิดีโอกลายเป็นเครื่องมือในการทำงานที่สำคัญท่ามกลางการระบาดของโคโรนาไวรัส ทำให้บริษัทสตาร์ทอัพในโตเกียวแห่งหนึ่งได้พัฒนาวิธีการทำให้ผู้ใช้ดูเป็นมืออาชีพขึ้นผ่านทางวิดีโอแม้เพิ่งลุกจากเตียง ผู้ใช้เพียงแค่ดาวน์โหลดแอปของ EmbodyMe ลงในคอมพิวเตอร์และอัปโหลดภาพถ่ายที่ดูเป็นทางการของตัวเอง จากนั้นแอปจะสร้างรูปภาพในเวอร์ชันที่ดูดียิ่งขึ้นโดยใช้ AI เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเข้าร่วมการประชุม Zoom และ Teams ได้เหมือนกับสวมชุดทำงานเต็มตัวในขณะที่ยังสวมชุดนอนอยู่

แอปของ EmbodyMe นั้นได้ใช้เทคโนโลยีที่ซับซ้อนจำนวนมากโดยมันจะทำการติดตาม 50,000 จุดบนใบหน้าของผู้ใช้ในแบบ 3 มิติเพื่อตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในการแสดงออกของใบหน้า หลังจากนั้นตัวแอปจะสร้างภาพบนหน้าจอที่ดูเป็นธรรมชาติขึ้นมา ซึ่งมันยังสามารถตอบสนองต่อการเคลื่อนไหวของผู้ใช้ได้อีกด้วยอย่างเช่น ตอนที่ผู้ใช้งานเคลื่อนที่เข้าใกล้หรือออกห่างจากกล้องมากขึ้น

Issay Yoshida ประธานของบริษัทได้กล่าวว่า จุดแข็งของ EmbodyMe นั้นอยู่ที่ความสามารถพิเศษ “ในการประมวลผลและสร้างวิดีโอแบบเรียลไทม์” โดยแอปสามารถสร้างภาพคุณภาพสูงในเวลาเพียง 0.01 วินาทีแม้จะประมวลผลจากคอมพิวเตอร์ทั่วไปเท่านั้น ซึ่งทำได้เร็วกว่าคู่แข่งอย่างน้อย 50 เท่า

อ้างอิง : https://asia.nikkei.com/Business/Technology/Pajamas-at-work-AI-startup-offers-deepfake-wardrobe-for-meetings

 

จีนใช้ AI และการพิมพ์ 3 มิติสร้างเขื่อนสูง 590 ฟุตโดยไม่ต้องใช้แรงงานมนุษย์

นักวิทยาศาสตร์ชาวจีนกล่าวว่าพวกเขากำลังพิมพ์ 3 มิติเขื่อนสูง 590 ฟุตภายในปี 2567 โดยใช้ AI และหุ่นยนต์ โดยเขื่อน Yangqu นี้ หากสร้างเสร็จสิ้น โครงการนี้น่าจะเป็นโครงสร้างที่สูงที่สุดในโลกซึ่งสร้างขึ้นโดยใช้กระบวนการพิมพ์ 3 มิติ ซึ่งสถิติปัจจุบันคืออาคารสำนักงาน 2 ชั้นในดูไบ ซึ่งสูง 20 ฟุต นอกจากนี้ เชื่อน Yangqu จะใช้ระบบ AI ส่วนกลางเพื่อดูแลสายการประกอบอัตโนมัติขนาดใหญ่ที่เริ่มต้นด้วยรถบรรทุกไร้คนขับที่ใช้ในการขนส่งวัสดุก่อสร้างไปยังส่วนต่างๆ ของสถานที่ทำงาน เมื่อวัสดุมาถึง รถปราบดินไร้คนขับและรถปูผิวทางจะนำมาทำให้เป็นชั้นของเขื่อน จากนั้นลูกกลิ้งที่ติดตั้งเซนเซอร์จะช่วยกดแต่ละชั้นเพื่อให้แน่นและทนทาน ซึ่งตามรายงาน เมื่อเลเยอร์เสร็จสิ้น หุ่นยนต์จะส่งข้อมูลเกี่ยวกับสถานะการก่อสร้างกลับไปยังระบบ AI ด้วย

นักวิทยาศาสตร์จีนได้กล่าวว่า วิธีการของพวกเขาจะช่วยขจัดข้อผิดพลาดของมนุษย์และปัญหาด้านความปลอดภัยสำหรับผู้ปฏิบัติงาน และช่วยให้งานในสถานที่สามารถก้าวหน้าได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยสำหรับคนงานที่เป็นมนุษย์ ซึ่งเขื่อน Yangqu ที่สร้างเสร็จแล้วจะจ่ายพลังงานให้กับจีน 5 พันล้านกิโลวัตต์-ชั่วโมงทุกปี และหากประสบความสำเร็จ วิธีสร้างอาจเป็นพิมพ์เขียวสำหรับโครงการก่อสร้างอื่นๆ เช่น การก่อสร้างถนน

อ้างอิง : https://news.yahoo.com/china-using-ai-3d-printing-051601049.html

 

กระท่อมปลายนาพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อเกษตรกรไทยอัจฉริยะ

ในยุคที่เทคโนโลยีและนวัตกรรมเข้ามามีบทบาทสำคัญ ส่งผลให้เกษตรกรไทยในหลายพื้นที่ ต้องการพัฒนาตัวเองสู่การเป็นเกษตรกรอัจฉริยะ เพื่อลดต้นทุน ลดแรงงาน และลดทอนเวลาในการทำการเกษตร แต่ด้วยอุปสรรคและข้อจำกัด จึงทำให้เกษตรกรไม่สามารถเดินหน้าสู่การเป็นเกษตรกรอัจฉริยะอย่างที่ตั้งใจไว้ได้

ด้วยปัญหาดังกล่าว จึงทำให้กลุ่มอาจารย์และนักศึกษาในพื้นที่ จ.มุกดาหาร สาขาวิชาอิเล็กทรอนิกส์วิทยาลัยการอาชีพนวมินทราชินีมุกดาหาร ได้คิดค้นนวัตกรรมสร้างสรรค์แบบง่าย ๆ ที่เรียกว่า “กระท่อมปลายนาพลังงานแสงอาทิตย์” ขึ้นมา เพื่อให้เกษตรกรไทยสามารถใช้เทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพในราคาที่จับต้องได้

สำหรับที่มาของการพัฒนานวัตกรรมกระท่อมปลายนาพลังงานแสงอาทิตย์ เกิดจากการที่ชาวนาต้องการลดเวลาและลดการดูแลพื้นที่แปลงปลูกพืชผัก เพื่อให้มีเวลามากขึ้นในการหารายได้ โจทย์ในการพัฒนาจึงอยู่ที่การสามารถดูแลได้ตลอด โดยที่เกษตรกรจะอยู่ที่ไหนก็ได้ ซึ่งเหตุผลที่ใช้กระท่อมมาเป็นจุดตั้งต้นของพลังงานแสงอาทิตย์ เนื่องจากในโซนภาคอีสานนิยมสร้างกระท่อมปลายนาขึ้นมาเพื่อพักผ่อน หลบแดดหลบฝน จึงมีแนวคิดที่จะใช้ประโยชน์จากแสงแดดที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติมาผลิตกระแสไฟฟ้า เพื่อใช้ในการรดน้ำ นวัตกรรมนี้จะเข้ามาช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานไฟฟ้าให้เป็นศูนย์ได้ทันที และลดการใช้แรงงานได้

หลักการทำงานของกระท่อมปลายนาพลังงานแสงอาทิตย์อาศัยการทำงานโดยใช้ AI เข้ามาควบคุมและบริหารจัดการ เช่น เวลาในการปล่อยน้ำ การควบคุมอุณหภูมิ ซึ่งมีการประมวลผลที่แม่นยำ ทำให้ได้ผลผลิตที่ตรงตามความต้องการ โดยกระท่อมปลายนานี้จะทำหน้าที่สะสมพลังงานจากแสงอาทิตย์ แล้วเปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์เป็นพลังงานไฟฟ้าเข้าสู่แบตเตอรี่ เพื่อจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ใช้ในการเกษตร อย่างเครื่องสูบน้ำเข้าทุ่งนา หรือจ่ายไฟให้กับโรงเรือนการเกษตร เช่น จ่ายน้ำ เปิดไฟให้ความสว่าง เพื่อควบคุมอุณหภูมิและความชื้น เทคโนโลยีนี้จะเป็นประโยชน์กับเกษตรกรในหลายด้าน โดยจะเข้ามาช่วยลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ คือช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายด้านไฟฟ้า และประหยัดค่าใช้จ่ายที่ต้องซื้อน้ำมันเพื่อมาสูบน้ำไปในทุ่งนา ขณะที่ราคาของนวัตกรรมกระท่อมปลายนาพลังงานแสงอาทิตย์จะอยู่ที่ 40,000 – 45,000 บาท ซึ่งถือเป็นค่าใช้จ่ายที่จับต้องได้ เมื่อเทียบกับนวัตกรรมในประเภทเดียวกันที่มีราคาค่อนข้างสูง และที่สำคัญนวัตกรรมนี้จะช่วยลดเวลาในการดูแลแปลงปลูก เพื่อให้เกษตรกรไทยมีเวลาในการหาความรู้เพื่อสร้างรายได้จากช่องทางอื่น ๆ ได้

อ้างอิง : https://www.tnnthailand.com/news/tech/113035/

 

สตาร์ทอัพเกาหลีใต้ พัฒนา AI เพื่อลดอุบัติเหตุทางทะเลและท่าเรือ

บริษัทสตาร์ทอัพสัญชาติเกาหลีใต้ Seadronix มีเป้าหมายเพื่อลดปัญหาอุบัติเหตุทางทะเล ซึ่ง 75% เกิดจากความผิดพลาดของมนุษย์ ตามรายงานความปลอดภัยและการขนส่งของ Allianz ปี 2019 โดยบริษัทเพิ่งได้รับทุนมูลค่า 5.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อขยายขนาดระบบตรวจสอบและระบบที่สามารถนำทางไปยังท่าจอดเรือได้ โดยใช้ AI เพื่อช่วยให้เรือขนส่งสินค้าสามารถเดินทางได้อย่างปลอดภัยและช่วยให้ผู้ปฏิบัติงานท่าเรือจอดยานพาหนะของตนไว้ที่ท่าเรือได้สำเร็จ

โดยระบบตรวจสอบท่าเทียบเรือแบบ AI ของ Seadronix (AVISS) จะใช้ vision sensors และ lidar เพื่อช่วยให้เรือขนาดใหญ่จอดเทียบท่า ระบบตรวจสอบการมองรอบๆ ที่ใช้ AI (NAVISS) ซึ่งสามารถติดตั้งเพิ่มเติมกับเรือบรรทุกสินค้า รองรับเรือในสถานการณ์ที่ต้องการการนำทาง ซึ่งซีอีโอของบริษัทได้กล่าวว่า “ภารกิจของเราคือการเป็นแพลตฟอร์ม AI ที่รับรองความปลอดภัยและการปกป้องสิ่งแวดล้อมของมหาสมุทร และด้วยเงินทุนนี้ เราหวังว่าจะสรรหาพนักงานเพิ่มขึ้นสำหรับธุรกิจ AI ฟิวชั่นเซนเซอร์ และการนำทาง และเร่งแผนการเจาะตลาดทั่วโลกของเรา”

อ้างอิง : https://techcrunch.com/2022/05/09/seadronix-aims-to-reduce-marine-accidents-at-port-and-sea-with-ai/

 

Intel เปิดตัว Gaudi2 ชิป AI ตัวใหม่

Intel ได้เปิดตัวชิปตัวใหม่ที่เรียกว่า Gaudi2 ซึ่งเน้นที่การประมวลผลด้วย AI โดยทาง Intel ต้องการที่จะมีส่วนร่วมในตลาด AI ชิป ซึ่งปัจจุบันครอบครองโดย Nvidia Gaudi2 เป็นหน่วยประมวลผลรุ่นที่สองโดย Habana Labs ซึ่งเป็นบริษัทสตาร์ทอัพชิป AI ของอิสราเอลที่ Intel ซื้อมาในช่วงปลายปี 2019 ด้วยราคาประมาณ 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเราจะสังเกตเห็นได้ว่างช่วงปีที่ผ่านมานั้นมีสตาร์ทอัพหลายแห่งได้รับเงินลงทุนจำนวนมหาศาลเนื่องจากการประมวลผลด้วย AI เป็นหนึ่งในส่วนที่เติบโตเร็วที่สุดในสำหรับธุรกิจศูนย์ข้อมูล

Eitan Medina หัวหน้าเจ้าหน้าที่ธุรกิจที่ Habana Labs บอกว่า Gaudi2 นั้นเร็วเป็นสองเท่าของชิป AI รุ่นก่อนของ Habana และผลิตขึ้นด้วยเทคโนโลยีทรานซิสเตอร์ขนาด 7 นาโนเมตรของ Taiwan Semiconductor Manufacturing Co จากเดิมที่มีขนาด 16 นาโนเมตร

แซนดรา ริเวรา หัวหน้าศูนย์ข้อมูลและ AI ของ Intel กล่าวว่าตลาดชิป AI คาดว่าจะเติบโตประมาณ 25% ต่อปีในอีก 5 ปีข้างหน้า โดยมีมูลค่าประมาณ 5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เธอยังได้กล่าวอีกว่า “เราตั้งใจที่จะลงทุนและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ เพื่อที่จะเป็นผู้นำในตลาดนี้” พร้อมเสริมว่าจะมีการลงทุนเพิ่มมากขึ้นในด้านซอฟต์แวร์ รวมถึงการขยายทีมของ Intel และซื้อบริษัทอื่นๆ อีกด้วย

อ้างอิง : https://www.itnews.com.au/news/intel-launches-new-ai-chips-579811

 

Clearview บริษัทเทคโนโลยีจดจำใบหน้าตกลงที่จะไม่ทำธุรกิจกับเอกชนตามคำสั่งศาล

Clearview บริษัทเทคโนโลยีการจดจำใบหน้า (facial recognition) ได้ยอมรับข้อตกลงที่จะทำไม่ให้บริษัทเอกชนเกือบทั้งหมดใช้บริการของเขาภายใต้ข้อตกลงของศาล

ข้อตกลงที่ยื่นฟ้องในศาลอิลลินอยส์จะยุติคดีความของสหภาพเสรีภาพพลเมืองอเมริกันในปี 2020 ที่กล่าวหาว่าบริษัทสร้างธุรกิจจากข้อมูลการจดจำใบหน้าที่ถ่ายโดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ใช้ โดยส่วนหนึ่งของข้อตกลงนั้น Clearview ตกลงที่จำกัดการขายหรือการเข้าถึงฐานข้อมูลของภาพถ่ายใบหน้าที่พวกเขามีทั่วทั้งประเทศตามคำสั่งศาล นอกจากนั้นคำสั่งยังห้ามบริษัทติดต่อกับธุรกิจส่วนตัวและบุคคลส่วนใหญ่ทั่วประเทศ รวมถึงพนักงานของรัฐด้วย อย่างไรก็ตาม Clearview ยังสามารถทำงานร่วมกับหน่วยงานของรัฐบาลกลางและหน่วยงานตำรวจในท้องที่ ตราบใดที่พวกเขาอยู่นอกรัฐอิลลินอยส์

อิลลินอยส์เป็นรัฐเดียวที่ออกกฎหมายความเป็นส่วนตัวด้าน biometric ทำให้รัฐนั้นเป็นศูนย์กลางสำหรับนักเคลื่อนไหวที่พยายามต่อสู้กับเครื่องมือที่ใช้เทคโนโลยีการจดจำใบหน้า ซึ่งรัฐเคยสั่งฟ้อง Meta หรือ Facebook ในปีที่แล้วโดยทางบริษัทได้ตกลงที่จะจ่ายเงินจำนวน 650 ล้านดอลลาร์ภายใต้คำฟ้องนั้น Clearview ได้ประกาศไปแล้วในปี 2020 ว่าจะหยุดทำงานกับบริษัทเอกชน และมุ่งเน้นไปที่การทำงานร่วมกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในท้องถิ่นหลายพันแห่งและหน่วยงานของรัฐบาลกลาง เช่น กระทรวงยุติธรรม ซึ่งได้นำเทคโนโลยีไปใช้ทั้งในงานตำรวจและเหตุการณ์ไม่ปกติ เช่น การจลาจลที่ Capitol เมื่อวันที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2564

อ้างอิง : https://www.theverge.com/2022/5/9/23063952/clearview-ai-aclu-settlement-illinois-bipa-injunction-private-companies

—————————————————————————————-

ทั้งหมดเป็นข่าวที่น่าสนใจใน 6 – 13 พฤษภาคม 2565 พบกันใหม่ในสัปดาห์หน้านะคะ : )

หากมีข้อสงสัย ติชมสามารถ ติดตามและสอบถามได้ที่
 : AIไทยสามารถ โดย AI for all Thailand



เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

อนุญาตทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • Always Active

บันทึก