ข่าว AI รอบโลก – สัปดาห์ที่ 3 เดือนกุมภาพันธ์ 2023

เหนือชั้นกว่าเครื่องบินไร้คนขับ “ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ขับเครื่องบินแทนมนุษย์ ”

ล็อกฮีด มาร์ติน เผยความสำเร็จในการทำให้ปัญญาประดิษฐ์ขับเครื่องบินฝึกบินแทนคนได้สำเร็จ โดยบินต่อเนื่องได้ถึง 17 ชั่วโมง
อากาศยานไร้คนขับ (Unmanned Aerial Vehicle: UAV) ที่ขับเคลื่อนด้วยคนหรือปัญญาประดิษฐ์จากระยะไกลนั้นไม่ได้เป็นเรื่องใหม่ในปี 2023 เพราะอากาศยานกลุ่มนี้มีมานานแล้ว แต่ว่าความสำเร็จล่าสุดของบริษัท ล็อกฮีด มาร์ติน (Lockheed Martin) ผู้ผลิตอากาศยานชั้นนำของโลกจากสหรัฐอเมริกานั้นอาจเหนือชั้นกว่า UAV เพราะว่าบริษัทได้ทำให้ปัญญาประดิษฐ์ขึ้นบิน “แทน” มนุษย์ ในเครื่องบินฝึกบินที่กองทัพอากาศสหรัฐอเมริกาใช้งานได้สำเร็จ และสร้างชั่วโมงบินได้ถึง 17 ชั่วโมง

เครื่องบินฝึกบินดังกล่าวมีชื่อว่าวิสตา (VISTA: Variable In-flight Simulation Test Aircraft) ของบริษัท ล็อกฮีด มาร์ติน ประจำการในกองทัพอากาศสหรัฐอเมริกา (USAF: United States Air Force) สำหรับฝึกหัดนักบินของกองทัพ ซึ่งต่างจากเครื่องบินหรืออากาศยานอื่น ๆ ที่ระบบปัญญาประดิษฐ์ควบคุม เพราะเครื่องบินลำนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อการบินของมนุษย์โดยเฉพาะ

ดังนั้น ความสำเร็จในครั้งนี้ส่งผลให้วงการการฝึกบินสั่นสะเทือน และเปลี่ยนวิธีคิดในการออกแบบเครื่องบินสำหรับการทำระบบไร้คนขับโดยสิ้นเชิง โดยในรายงานของบริษัทได้ระบุว่าระบบปัญญาประดิษฐ์ได้เข้าควบคุมการบังคับเครื่องบินวิสตา โดยมีลักษณะการทำการบินและการตัดสินใจแทบไม่ต่างจากมนุษย์ สร้างสถิติชั่วโมงบินอยู่ที่ 17 ชั่วโมง แต่ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดอื่นใดในตอนนี้

ทีมสกั๊งค์ เวิร์คส์ (Skunk Work) ซึ่งเป็นแม่งานหลักในการออกแบบเครื่องบินของบริษัท (ทีมงานเดียวกันกับที่เคยออกแบบภายนอกของเครื่องบินสมมติในภาพยนตร์เรื่องท็อปกัน: มาเวอริค) จะนำข้อมูลที่ได้รับในการทดสอบครั้งนี้ไปต่อยอดการออกแบบฝูงบินไร้คนขับแบบใหม่ต่อไป โดยเครื่องบินวิสตาเป็นหนึ่งในเครื่องบินหลักที่ทีมสกั๊งค์ เวิร์คส์ เคยใช้เป็นเครื่องมือพัฒนาหน้าจอแสดงผลเสมือนแบบ Head-up Display และระบบสั่งงานด้วยเสียงบนเครื่องบินขับไล่เอฟ 35 ไลท์นิง ทู (F-35 Lightning II) ด้วยเช่นกัน

อ้างอิง : https://www.tnnthailand.com/news/tech/138647/

Bing ที่ขับเคลื่อน ChatGPT มีผู้สมัครใช้ 1 ล้านครั้ง ใน 48 ชั่วโมง

Bing ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์แชตจีพีที (ChatGPT) มีผู้สมัครใช้ 1 ล้านครั้ง ใน 48 ชั่วโมง
ภายหลังจากบริษัท ไมโครซอฟท์ (Microsoft) เปิดตัวบริการค้นข้อมูลบิง (Bing) โฉมใหม่ที่นำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์แชตจีพีที (ChatGPT) เข้ามาช่วยขับเคลื่อนระบบและเปิดให้ผู้ที่สนใจลงชื่อเข้าใช้งาน ล่าสุดบริษัทเปิดเผยว่าผู้สมัครใช้ 1 ล้านครั้ง ใน 48 ชั่วโมง

ประเด็นความสำเร็จดังกล่าวถูกเปิดเผยโดยยูซุฟ เมห์ดี (Yusuf Mehdi) รองประธานบริษัท ไมโครซอฟท์ (Microsoft) และประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดเพื่อผู้บริโภค ผ่านทางทวิตเตอร์ (Twitter)

“เรารู้สึกขอบคุณและมีกำลังใจในการทำงานหลังจากมีผู้สนใจลงชื่อเข้าทดสอบการใช้บริการบิง (Bing) ที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI) มากกว่า 1 ล้านคน ภายในเวลา 48 ชั่วโมง หากคุณต้องการลงชื่อเข้าทดสอบสามารถลงชื่อได้ที่ bing.com/new”

ก่อนหน้านี้บริษัท ไมโครซอฟท์ได้จัดงานแถลงข่าวการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์แชตจีพีที (ChatGPT) เข้ามาช่วยขับเคลื่อนการทำงานของเว็บเบราว์เซอร์ไมโครซอฟท์เอดจ์ (Microsoft Edge) และไมโครซอฟท์บิง (Bing) เพื่อช่วยให้บริการมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น ปรับปรุงความเกี่ยวข้องในการค้นหา การแชตสนทนาสอบถามกับปัญญาประดิษฐ์โดยตรงและการอธิบายผลลัพธ์การค้นหา

ความสำเร็จในครั้งนี้ของบริษัท ไมโครซอฟท์ (Microsoft) นับว่าเป็นช่วงเวลาที่สำคัญเพื่อสานต่อความสำเร็จของบริการแชตจีพีที (ChatGPT) ที่มีผู้ใช้งานต่อเดือนมากกว่า 100 ล้านคน ภายในเวลาเพียงแค่ 2 เดือน ซึ่งนับว่าเป็นข่าวร้ายสำหรับบริษัทคู่แข่งอย่างกูเกิล (Google) ที่ต้องรีบพัฒนาบริการค้นข้อมูลและเว็บเบราว์เซอร์อย่างเร่งด่วน

อ้างอิง : https://www.tnnthailand.com/news/tech/138614/

Kyndryl ชี้องค์กรไทยสนใจ AI เพิ่ม พบอาเซียนโฟกัสเพียง 7%

คินดริล (Kyndryl) ชี้องค์กรในอาเซียนเพียง 7% ให้ความสำคัญกับการสร้างข้อมูลที่ถูกต้อง และการวางรากฐาน AI ชี้ความริเริ่มด้านข้อมูลและ AI ทั่วทั้งองค์กรในประเทศไทยกำลังเพิ่มขึ้น เนื่องจากทุกฝ่ายพยายามขับเคลื่อนการเติบโต การเปลี่ยนแปลง และการพัฒนาอย่างยั่งยืน

นายกัณณวันต์ สกุลจิตตเจริญ กรรมการผู้จัดการ คินดริล ประเทศไทยและเวียดนาม กล่าวว่าความริเริ่มด้านข้อมูลและ AI ทั่วทั้งองค์กรในประเทศไทยกำลังเพิ่มขึ้น เนื่องจากความพยายามขับเคลื่อนวาระการเติบโต การเปลี่ยนแปลง และการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยผู้นำด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและธุรกิจมองเห็นความเป็นไปได้ในการใช้ประโยชน์จากข้อมูลและ AI เพื่อปลดล็อกข้อมูลเชิงลึกแบบเรียลไทม์และมอบความคล่องตัวที่จำเป็นต่อการประสบความสำเร็จในตลาดที่ผันผวนและมีการแข่งขันสูงในปัจจุบัน
“ในการเริ่มออกเดินทางสู่การเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริง องค์กรต่าง ๆ จำเป็นต้องมีระบบนิเวศการจัดการข้อมูลที่แข็งแกร่งเป็นรากฐาน ความเชี่ยวชาญอย่างลึกซึ้งในการจัดการข้อมูลและ AI ของคินดริลสามารถช่วยให้พวกเขาทำเรื่องนี้ได้สำเร็จ โดยเริ่มจากการให้คำปรึกษาไปจนถึงการดำเนินการ และการจัดการภูมิทัศน์ข้อมูลของพวกเขาอย่างต่อเนื่อง”

Kyndryl นั้นเคลมตัวเองเป็นผู้ให้บริการระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศที่ใหญ่ที่สุดในโลก ชื่อรายงานที่เผยแพร่ล่าสุดคือ “5 ข้อมูลเชิงลึกช่วยองค์กรสร้าง AI ที่สามารถปรับขยายตามการใช้งาน” (“5 Insights to Help Organizations Build Scalable AI”) ซึ่งเกิดจากความร่วมมือระหว่างคินดริลและ Ecosystm ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาธุรกิจและวิจัยด้านเทคโนโลยี ทำให้สามารถเผยข้อมูลเชิงลึกที่จะช่วยให้องค์กรต่าง ๆ สร้าง AI ที่สามารถปรับขยายตามการใช้งาน (scalable AI) และกลายเป็นองค์กรที่เน้นข้อมูลเป็นหลัก (data-first)

การศึกษาครั้งนี้ใช้ข้อมูลตอบรับจากผู้บริหารระดับสูงทั่วภูมิภาคอาเซียน จำนวน 500 คน โดยมีจุดมุ่งหมายในการจัดการกับความท้าทายด้านข้อมูลและ AI ที่องค์กรในอาเซียนเผชิญ รวมถึงให้คำแนะนำในการสร้างกลยุทธ์ที่สร้างการเติบโตและปรับขยายได้ ซึ่งส่งผลกระทบเชิงบวกต่อธุรกิจ

แม้ทุกองค์กรที่ประสบความสำเร็จในปัจจุบันยอมรับการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล โดยมีการริเริ่มด้านข้อมูลและ AI เป็นแกนหลัก อย่างไรก็ตาม ภูมิภาคอาเซียนพบกับความท้าทายเดียวกัน ซึ่งเป็นอุปสรรคในการนำข้อมูลและโซลูชัน AI ไปใช้อย่างมประสิทธิภาพ

ผลการศึกษาพบว่าผู้เข้าร่วมงานวิจัย 48% ยังคงต้องเผชิญกับความท้าทายในการผสานรวมโซลูชัน AI กับระบบที่มีอยู่ 38% มีปัญหาในการรวบรวมข้อมูลจากแหล่งข้อมูลภายในหลายช่องทาง และ 34% มีปัญหาในเรื่องคุณภาพของข้อมูล
ผลการวิจัยยังชี้ว่า การเข้าถึงข้อมูลเป็นอุปสรรคสำคัญ โดยรายงานการวิจัยเผยให้เห็นว่า ในอาเซียนระดับวุฒิภาวะของการนำข้อมูลและ AI มาใช้นั้นแตกต่างกันไป และมีผู้เข้าร่วมวิจัยเพียง 7% เท่านั้นที่ให้ความสำคัญกับการสร้างข้อมูลที่ถูกต้องและการวางรากฐาน AI ข้อมูลเชิงลึกที่ถูกต้องนั้นมาจากชุดข้อมูลที่สมบูรณ์และสอดคล้องกันโดยไม่มีช่องว่างระหว่างข้อมูลเท่านั้น สภาวะสำคัญที่จำเป็นต่อการสร้างชุดข้อมูลแบบนั้น ได้แก่ การให้ความสำคัญกับข้อมูลที่ผ่านการคัดกรองแล้วและเชื่อถือได้ รวมทั้งแผนกลยุทธ์การทำงานร่วมกันของข้อมูล และการสร้างข้อมูลสังเคราะห์เพื่อลดช่องว่างระหว่างข้อมูล

อ้างอิง : https://mgronline.com/cyberbiz/detail/9660000015101

ไอเดียแจ๋ว ! ชายรายหนึ่งทำพอดแคสต์ ‘AI Radio’ ที่เขียนบทโดย AI มีพิธีกรเป็น AI และแขกรับเชิญเป็น AI

ในยุคที่ AI ปฏิวัติไปทุกวงการ ไม่ว่าจะเป็นวงการเทคโนโลยี การแพทย์ การบริการลูกค้า ระบบการขนส่งสินค้า (Logistic) จนเรียกได้ว่า AI คือหนึ่งในเทคโนโลยีที่อาจสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับทั่วทุกมุมของโลกในอนาคตเลยทีเดียว และในคราวนี้ การปฏิวัติของ AI ก็ได้มาถึงทีของวงสื่อกันบ้างแล้ว

ชายไอเดียแจ๋วรายหนึ่งได้สร้างรายงานพอดแคสต์ “AI Radio” ที่มีพิธีกรรายการสองคนจาก AI โดยจะมีการพูดคุยเกี่ยวกับทุกสิ่งทุกอย่างในโลกใบนี้ ตั้งแต่ข่าวเทคโนโลยีไปจนถึงการมีเพศสัมพันธ์

AI Radio เป็นพอดแคสต์รายการใหม่บน Spotify และ Transistor ที่เต็มไปด้วยบรรยากาศของความขบขันจากการพูดหยอกล้อเล่นกันระหว่างพิธีกรทั้งสอง ในขณะเดียวกันก็มีช่วงสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับหัวข้อที่กำลังสนทนากัน

แม้จะดูเหมือนรายการพอดแคสต์ทั่วไป แต่สิ่งที่ทำให้รายการนี้โดดเด่นน่าจับตามอง คือ พิธีกรของรายการไม่ใช่มนุษย์ ทั้งผู้เชี่ยวชาญและแขกรับเชิญทุกคนก็เช่นกัน เพราะพวกเขาทั้งหมดเป็น AI

AI Radio ดำเนินรายการโดย AI-Chatbot สองตัวชื่อ “เบลล่า” กับ “อดัม” โดยจนถึงตอนนี้ รายการพอดแคสต์มีเพียง 2 EP เท่านั้น และตั้งแต่เริ่มรายการ EP แรกเป็นต้นมา เบลล่ากับอดัมก็ได้พูดคุยกันเกี่ยวกับเหตุการณ์ปัจจุบันที่ฟังดูเหมือนจะเป็นเรื่องไร้สาระ แต่ความจริงแล้วทุกสิ่งทุกอย่างที่ทั้งสองพูดนั้นเป็นเรื่องจริง เช่นการคุยกันเรื่องของเล่นตัวใหม่บนเว็บ Google ที่ผู้ใช้สามารถทำให้หยดน้ำหลากสีสันร้องเพลงโอเปร่าได้

“เบลล่า ผมกำลังบอกคุณว่านี่จะเป็นเรื่องใหญ่เรื่องต่อไปแน่ ๆ มันจะจุดเปลี่ยนเกมโดยสิ้นเชิง และทำให้ราคาหุ้นของ Google เพิ่มขึ้นสองเท่า ลองคิดดูสิ ผู้คนจะแห่กันไปที่เทคโนโลยีใหม่นี้” อดัม พิธีกร AI กล่าวใน EP2 ของรายการ AI Radio

ผู้สร้างรายการนี้ คือ ผู้ใช้ Reddit ที่ใช้ชื่อบัญชีว่า “Bemmu” โดยเขาได้โพสต์เกี่ยวกับโปรเจกต์ดังกล่าวไว้บนฟอรัม แล้วจากนั้นชาว Reddit หลายคนที่ผ่านมาเห็นก็รู้สึกทึ่งกับรายการนี้ และเริ่มกดติดตามเมื่อมีตอนใหม่ถูกปล่อยออกมา

รายการนี้เป็นเพียงการใช้โปรแกรมแมชชีนเลิร์นนิงรุ่นล่าสุดเพื่อสร้างเนื้อหาที่ก่อนหน้านี้ผู้คนสร้างขึ้น โดยขณะนี้ ChatGPT ถูกนำมาใช้เพื่อผ่านการทดสอบใบอนุญาตทางการแพทย์ และแม้แต่การเขียนจดหมายล็อบบี้ยิสต์ขององค์กร
ในขณะเดียวกัน ผู้ที่เชื่อในเทคโนโลยีนี้ก็กำลังมองเห็นอนาคตของอุตสาหกรรมบันเทิงในรูปแบบใหม่ จากผลลัพธ์ของรายการที่สร้างโดย AI ทว่าก็ยังคงมีอีกฝั่งที่มองเห็นการทำสงครามระหว่าง AI กับครีเอเตอร์ที่สร้างคอนเทนต์ดังกล่าวในปัจจุบัน
Bemmu ให้บอท AI พูดคุยกันประมาณหนึ่งชั่วโมง จากนั้นก็ตัดต่อส่วนที่ดีที่สุดเพื่อให้ได้ตอนสั้น ๆ ประมาณ 15 นาที โดย Bemmu ได้อธิบายเพิ่มเติมว่าซอฟต์แวร์ดังกล่าวสามารถจัดรายการที่สร้างข่าวปลอม (หรืออาจครอบคลุมเรื่องจริงด้วย) สัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญปลอม พูดคุยเกี่ยวกับหัวข้อที่พบใน Reddit และ Hacker News และยังสามารถตอบคำถามที่ผู้อ่านให้มา หรือสร้างคำถามขึ้นเอง
อย่างไรก็ตาม Bemmu ดูเหมือนจะตระหนักถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการปล่อยให้เนื้อหาทั้งหมดขึ้นอยู่กับระบบ AI เนื่องจากมีแนวโน้มที่จะสร้างข้อมูลเท็จ แสดงอคติเหยียดเชื้อชาติและเหยียดเพศซ้ำ ๆ และมักจะข้ามขอบเขตของสิ่งที่ยอมรับได้

อ้างอิง : https://siamblockchain.com/2023/02/15/this-podcast-has-hosts-jokes-and-expert-guests-its-all-ai-generated/

BuzzFeed เปิดตัวบทความโดย AI ตัวแรกของพวกเขาในรูปแบบควิซที่แฝงโฆษณา

เกมแบบทดสอบ (quizzes) แรกของ BuzzFeed ที่ผสานรวมเครื่องมือการเขียนด้วย AI นั้นพร้อมใช้งานแล้ววันนี้ โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับวันวาเลนไทน์ เช่น “เดทกับเซเลบที่คุณชอบด้วยเวทมนตร์ของ AI” และ “แบบทดสอบ AI นี้จะเขียนเรื่องราง Rom-Com เกี่ยวกับคุณในเวลาน้อยกว่า 30 วินาที.” ผลลัพธ์ที่ได้คือได้เกมทายคำศัพท์แบบ Mad Libs ที่น่าสนใจกว่าเล็กน้อย

ในบันทึกถึงพนักงานเมื่อเดือนที่แล้ว Jonah Peretti ซีอีโอของ BuzzFeed บอกกับพนักงานว่าบริษัทจะ “เป็นผู้นำในอนาคตของเนื้อหาที่ขับเคลื่อนด้วย AI และเพิ่มพูนความคิดสร้างสรรค์ของนักเขียน ผู้ผลิต ผู้สร้าง และธุรกิจของเรา”

เกมแบบทดสอบชุดแรกจะแจ้งให้ผู้ใช้ป้อนข้อมูล เช่น ชื่อ อาหารโปรด หรือสถานที่ จากนั้นเครื่องมือจะแยกบล็อกข้อความที่สร้างขึ้นโดยใช้ปัญญาประดิษฐ์ให้สำหรับแต่ละผู้ใช้งาน ซึ่ง BuzzFeed กล่าวว่าเจ้าหน้าที่ที่เป็นมนุษย์ได้ทำการเขียนแบบทดสอบและฝึกอบรมตัวโมเดลเอง ซึ่งถือว่าเป็น “ความพยายามร่วมกัน” ระหว่างเจ้าหน้าที่ ระบบ AI และผู้ใช้ BuzzFeed แต่อย่างไรก็ตามจะมีข้อจำกัดบางอย่างเกี่ยวกับสิ่งที่ผู้ใช้สามารถป้อนและสิ่งที่โมเดลส่งกลับมา เช่น คำที่ไม่เหมาะสมบางคำจะถูกแบน

นอกจากนี้ ทางบริษัทยังได้เริ่มผสานรวมโฆษณาแบบเนทีฟและเนื้อหาที่สร้างโดย AI แล้ว โดยคำถามหนึ่งข้อที่มีชื่อว่า “เราจะออกแบบเนื้อคู่ในอุดมคติของคุณด้วยเวทมนตร์แห่ง AI” ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก Miracle-Gro

การประกาศของ BuzzFeed ว่าจะเริ่มใช้เครื่องมืออัตโนมัตินั้นตามมาติด ๆ กับผู้เผยแพร่โฆษณาดิจิทัลรายอื่น ๆ ที่อยู่ภายใต้การตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับวิธีการปรับใช้และเผยแพร่ ระบบที่คล้ายกันเอย่างว็บไซต์ข่าวเทคโนโลยี CNET ได้ใช้เครื่องมือสร้าง AI อย่างเงียบๆ เป็นเวลาหลายเดือนกับเรื่องราวหลายสิบเรื่อง ซึ่งส่วนใหญ่พบว่ามีข้อผิดพลาดในภายหลัง บทความแรกที่เผยแพร่ที่ Men’s Health เมื่อต้นเดือนนี้โดยใช้เครื่องมือ AI ก็มีข้อผิดพลาดที่จะแก้ไขได้ก็ต่อเมื่อมีคนถามเกี่ยวกับสิ่งเหล่านั้น

อ้างอิง : https://www.theverge.com/2023/2/14/23599330/buzzfeeds-ai-quizzes-openai-automation-digital-media

Microsoft จะสาธิต AI ตัวใหม่คล้าย ChatGPT ใน Word, PowerPoint และ Outlook เร็วๆ นี้

ซีอีโอ Satya Nadella ต้องการให้ยักษ์ใหญ่ด้านซอฟต์แวร์ผลักดัน AI อย่างหนัก ดังนั้น Microsoft จึงเตรียมพร้อมสำหรับการประกาศเกี่ยวกับ AI เป็นเวลาหนึ่งปี

Microsoft กำลังเตรียมพร้อมที่จะสาธิตว่า AI แบบใหม่ที่คล้ายกับ ChatGPT จะเปลี่ยนโฉมแอปเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของ Office ได้อย่างไร หลังจากประกาศและสาธิต Prometheus Model ในเสิร์ชเอ็นจิ้น Bing ใหม่เมื่อต้นสัปดาห์นี้ และตอนนี้ทาง Microsoft ก็กำลังเตรียมพร้อมที่จะแสดงว่าจะขยายไปยังแอปเพิ่มประสิทธิภาพหลักเช่น Word, PowerPoint และ Outlook ได้อย่างไร

แหล่งข่าวที่คุ้นเคยกับแผนของ Microsoft บอกกับ The Verge ว่าบริษัทกำลังเตรียมที่จะลงรายละเอียดเกี่ยวกับแผนการผลิตสำหรับการรวมเทคโนโลยี AI ภาษาของ OpenAI และ Prometheus Model ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ยักษ์ใหญ่ด้านซอฟต์แวร์กำลังวางแผนที่จะประกาศอย่างไม่เป็นทางการในเดือนมีนาคม โดยเน้นย้ำว่า Microsoft ต้องการพัฒนาแอปค้นหาและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานอย่างรวดเร็วเพียงใดผ่านการลงทุน OpenAI

Microsoft นั้นเร่งดำเนินการอย่างรวดเร็วขึ้นเนื่องจาก Google โดยแหล่งข่าวบอก ว่าเดิมที Microsoft วางแผนที่จะเปิดตัว Bing AI ใหม่ในปลายเดือนกุมภาพันธ์ แต่เลื่อนวันที่ไปข้างหน้าในสัปดาห์นี้เนื่องจาก Google กำลังเตรียมการประกาศของตัวเอง จากนั้น Google ได้ประกาศ Bard คู่แข่งของ ChatGPT ล่วงหน้าหนึ่งวันก่อนงานของ Microsoft

การผลักดันของ Nadella สำหรับ AI ในทุกผลิตภัณฑ์ของ Microsoft นั้นขับเคลื่อนโดยการตอบสนองของผู้บริโภคต่อ ChatGPT นักวิเคราะห์จาก UBS ประมาณการว่า ChatGPT มีผู้ใช้งานถึง 100 ล้านคนต่อเดือนภายในเวลาเพียงสองเดือน ผู้คนมากกว่า 1 ล้านคนลงทะเบียนรายชื่อผู้รอ Bing ภายใน 48 ชั่วโมง

Microsoft ต้องการคว้าโอกาส AI ตลอดปี 2023 และปลดล็อกคุณสมบัติและพลังบางอย่างของ Prometheus Model ที่ยังไม่ได้กล่าวถึงต่อสาธารณะ คาดว่า AI จะเป็นคำยอดนิยมสำหรับอุตสาหกรรมเทคโนโลยีทั้งหมดตลอดทั้งปี ในขณะที่ Microsoft และ Google เริ่มการต่อสู้เพื่ออนาคตของการค้นหาและ AI

อ้างอิง : https://www.theverge.com/2023/2/10/23593980/microsoft-bing-chatgpt-ai-teams-outlook-integration

Reddit คิดว่าแชทบอท AI จะ ‘เติมเต็ม’ การเชื่อมต่อของมนุษย์ ไม่ใช่แทนที่

Reddit ดูเหมือนจะไม่กังวลเกินไปเกี่ยวกับแชทบอทสนทนาที่ขับเคลื่อนด้วย AI เช่นเดียวกับที่ Google และ Microsoft เปิดเผยในสัปดาห์ที่แล้ว โดยอ้างอิงจากคำแถลงของบริษัทที่แชร์กับ The Verge ซึ่งการเปลี่ยนจากการค้นหาแบบดั้งเดิมเป็นบอทแบบ ChatGPT จะสามารถลบกลยุทธ์ในการต่อท้าย “reddit” ในการค้นหาของคุณเพื่อค้นหาข้อมูลที่มาจากมนุษย์แทนการใช้ SEO-optimized แต่ Reddit เชื่อว่าแชทบอทจะไม่แทนที่การเชื่อมต่อของมนุษย์จริงๆ

“เทคโนโลยีแชทบ็อต AI ยังใหม่อยู่และเป็นสิ่งที่เรากำลังสำรวจและจับตาดูอยู่” Nick Singer โฆษกของ Reddit กล่าว “แม้ว่าจะมีความต้องการชุมชนที่แท้จริงและความเชื่อมโยงระหว่างมนุษย์อยู่เสมอ ซึ่งเครื่องมือเช่นนี้สามารถช่วยเหลือได้ เราเห็นว่ามีการใช้แชทบอทในรูปแบบที่สนุกสนานและสร้างสรรค์เพื่อเติมเต็มชุมชนและความสัมพันธ์ของมนุษย์ ไม่ใช่การแทนที่”

เครื่องมือ AI สำหรับการสนทนา เช่น ChatGPT ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม เพราะสามารถพูดคุยด้วยได้อย่างสนุกสนาน และด้วยการรวมเข้ากับการค้นหาอย่างมากไม่ว่าจะเป็น Bard ของ Google และ Bing ใหม่ของ Microsoft สามารถทำให้การค้นหาสนุกกว่าที่เคย แต่มีปัญหามากมายเกี่ยวกับการค้นหาโดยใช้ AI รวมถึงศักยภาพในการรายงานความไม่ถูกต้องตามความเป็นจริง อย่างที่ Bard ทำในสื่อการตลาดอย่างเป็นทางการของ Google

เหตุผลหนึ่งที่ผู้คนมักไว้วางใจ Reddit ก็คือผู้ใช้มักจะโหวตสิ่งที่ดีและลงคะแนนสิ่งที่ไม่ดี หากคุณให้ข้อมูลที่ไม่ดีหรือโกหกอย่างโจ่งแจ้ง ความคิดเห็นของคุณอาจไม่ปรากฏบนสุดของกระทู้ Reddit แต่โดยทั่วไปแล้ว ฉันรู้สึกว่าฉันสามารถเชื่อถือความคิดเห็นที่ได้รับคะแนนโหวตสูงในชุมชนขนาดใหญ่มากกว่าผลลัพธ์ของ Google จากไซต์ที่ฉันอาจไม่รู้จักซะอีก คุณยังสามารถกลั่นกรองข้อมูลบน Reddit เพิ่มเติมได้ด้วยการดูประวัติการโพสต์ของผู้คนและถามคำถามพวกเขา ด้วยแชทบอท คุณต้องหวังว่ามันจะให้การอ้างอิงที่ดีแก่คุณ

คำแถลงของ Reddit กล่าวว่ากำลังสำรวจเทคโนโลยี AI chatbot ด้วยเช่นกัน ดังนั้นบางทีเราอาจจะพูดคุยกับ Reddit เพื่อค้นหาสิ่งต่างๆ ใน Reddit เร็วๆ นี้

อ้างอิง : https://www.theverge.com/2023/2/10/23594786/reddit-bing-chatgpt-ai-google-search-barduzzfeeds-ai-quizzes-openai-automation-digital-media

—————————————————————————————-

ทั้งหมดเป็นข่าวที่น่าสนใจใน  10 – 16 กุมภาพันธ์ 2565 พบกันใหม่ในสัปดาห์หน้านะคะ : )

หากมีข้อสงสัย ติชมสามารถ ติดตามและสอบถามได้ที่
 : AIไทยสามารถ โดย AI for all Thailand



เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

อนุญาตทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • Always Active

บันทึก