ข่าว AI รอบโลก – สัปดาห์ที่ 3 เดือนมีนาคม 2023

กรมสรรพากรนำระบบ AI ตรวจสอบภาษีเชิงลึก

กรมสรรพากรเตรียมนำระบบAIร่วมตรวจสอบภาษีเชิงลึก เผยอยู่ระหว่างการทดลองใช้ในแซนด์บ็อกซ์ ระบุ โซเซียลมีเดียเป็นช่องทางที่ระบบAIจะเข้าไปตรวจจับและประเมินรายได้จากการค้าขายผ่านระบบดังกล่าว

นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพากรเปิดเผยว่า กรมฯเตรียมนำระบบ AI มาร่วมใช้ในการตรวจสอบภาษี โดยขณะนี้ อยู่ระหว่างการทดลองใช้ในแซนด์บ็อกซ์ ซึ่งจะทำให้กรมฯได้ข้อมูลของผู้เสียภาษีที่ลึกขึ้นและช่วยป้องกันการหลบเลี่ยงภาษีได้

“ในหลายประเทศได้นำระบบ AI มาใช้ในการตรวจสอบการเสียภาษี ในส่วนของไทยนั้น อยู่ในระหว่างการทดลองใช้ใน Sandbox ซึ่งระบบดังกล่าวจะทำให้กรมฯได้ข้อมูลของผู้เสียภาษีที่ลึกขึ้นและช่วยป้องกันการหลบเลี่ยงภาษี”

เขากล่าวว่า ในปัจจุบันโซเชียลมีเดียมีบทบาทในการสื่อสารระหว่างบุคคล รวมถึง การค้าขาย ซึ่งระบบAI สามารถเข้าไปตรวจสอบว่าผู้เสียภาษีรายนั้นๆ มีการโพสต์เพื่อค้าขายอะไรบ้าง และสามารถเชื่อมโยงไปถึงรายรับของผู้ค้าได้

ทั้งนี้ ในช่วง 4 -5 ปีที่ผ่านมา กรมสรรพากร ได้นำระบบ e-tax มาใช้เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้เสียภาษี ไม่ว่าจะเป็นการยื่นแบบเสียภาษีทุกประเภท ผ่าน e-filing การตรวจสอบข้อมูลภาษีของตนเองผ่าน My Tax Account การหักภาษี ณ ที่จ่ายผ่าน e-withholding tax และระบบ e-Tax Invoice และe-Receipt เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม กรมสรรพากร จะอัปเกรดระบบ เพื่อดึงคนเข้าระบบให้มากขึ้น โดยเฉพาะผู้ประกอบการรายเล็กและรายกลาง ที่จำนวนมากอยากเข้าสู่ระบบภาษีที่ถูกต้อง แต่มีปัญหาความยุ่งยากในการทำระบบบัญชีและภาษี ซึ่งกรมฯก็จะอำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการรายเล็กและรายกลาง ให้สามารถยื่นภาษีได้ถูกต้อง ไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดความผิดพลาดและถูกเก็บภาษีย้อนหลัง โดยผู้ประกอบการสามารถใช้บริการ Service Provider ที่มี software ด้านภาษีที่ได้รับอนุญาตจากกรมให้เป็นผู้นำส่งภาษีให้กับกรมฯได้

“การนำระบบอิเล็กทรอนิกส์มาใช้ในการยื่นเสียภาษี จะทำให้ระบบการคืนภาษีสามารถทำได้รวดเร็วมากขึ้น เช่น จากเดิมที่เป็นระบบที่ใช้คนเป็นผู้ตรวจสอบ อาจใช้เวลาพิจารณาเพื่อคืนภาษีเป็นเดือน แต่เมื่อตรวจสอบผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ อาจใช้เวลาเหลือเพียง 7 วันเท่านั้น เป็นต้น”

แหล่งข่าวกล่าวว่า ในปัจจุบันกรมสรรพากรทำการสุ่มตรวจตามหน้าเว็บไซต์ต่างๆอยู่แล้ว เช่น เฟสบุ๊กที่มีการโพสต์โชว์เงินโอนเข้าหรือการไลฟ์สดขายของ เป็นต้น เพื่อตรวจสอบว่ารายได้ของบุคคลเหล่านั้นเสียภาษีถูกต้องแล้วหรือไม่ นอกจากนี้ กรมฯยังใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า Web Scraping คือ เทคนิคดึงข้อมูลจากหน้าเว็บไซต์ตามรูปแบบที่กำหนด เพื่อนำข้อมูลไปวิเคราะห์ตามจุดประสงค์ต่างๆ เช่น ดึงข้อมูลราคาและประเภทสินค้าที่ค้าขายผ่านเว็บไซต์ e-commerce

นอกจากนี้กรมสรรพากร ยังสามารถรู้รายได้ของผู้เสียภาษี จากข้อมูลที่สถาบันการเงิน ต้องนำส่งให้กรมสรรพากรตามกฎหมาย ซึ่งกำหนดว่า ให้สถาบันการเงินส่งข้อมูลบัญชีเงินฝาก ที่มีการโอนเงินเข้าบัญชีตั้งแต่ 3 พันครั้งต่อปี ให้กับกรมฯและกรณีที่มีการโอนเงินเข้าบัญชี ตั้งแต่ 400 ครั้งขึ้นไป/ปีแต่มีเงินที่โอนเข้ารวมกันเกินกว่า 2 ล้านบาท ก็จะต้องนำส่งข้อมูลให้กับกรมฯด้วยโดยข้อมูลที่ส่งให้กับกรมฯ จะทำให้กรมฯรู้ข้อมูลรายได้ของผู้มีรายได้ แต่ยังไม่สามารถนำมาเก็บภาษีได้ ต้องนำไปประมวลผลร่วมกับข้อมูลอื่นๆ ด้วย ว่าถึงเกณฑ์ที่ต้องยื่นภาษีและเสียภาษีแล้วหรือไม่

อ้างอิง : https://www.bangkokbiznews.com/finance/investment/1057439

กังวลหนัก กองทัพสหรัฐอาจพับแผน ใช้ AI ขับเครื่องบินรบแทนคน

ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ Lockheed Martin กับ DARPA จับมือกันพัฒนา VISTA X-62A เครื่องบินรบ F-16D รุ่นดัดแปลงพิเศษ ที่มาพร้อมระบบ AI ขับเคลื่อนด้วยตัวเองได้ และผ่านการทดสอบบินเรียบร้อย ทว่าล่าสุดทางกองทัพอากาศสหรัฐฯ เกิดมีความกังวลที่จะใช้จริง

นอกจากจะมีเครื่องบินขับไล่ที่ทันสมัยที่สุดในโลกแล้ว ทางกองทัพอากาศสหรัฐฯ ยังมี AI ที่ล้ำสมัยด้วย โดยหลังพัฒนามานาน ในที่สุดก็ได้ VISTA X-62A เครื่องบินรบ F-16D รุ่นดัดแปลงพิเศษ ที่มีระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติหรือ Air Force Research Laboratory’s Autonomous Air Combat Operations (AACO) และ Air Combat Evolution (ACE) ของ DARPA ซึ่งไม่เพียงบินขึ้นและลงจอดเท่านั้น แต่ยังฝึกซ้อมทางยุทธวิธีขั้นสูง และทดสอบการสู้รบจำลองได้เลย

VISTA X-62A เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ [Skyborg] ของกองทัพอากาศสหรัฐฯ หลังได้ผ่านการทดสอบบินเสร็จสิ้นถึง 12 เที่ยวบิน และบันทึกเวลาบินได้มากกว่า 17 ชั่วโมง อย่างไรก็ตาม ตัวเครื่องบินแม้จะมี AI แต่ก็ต้องมีนักบินคอยคุมอยู่ที่นั่งด้านหลัง เพื่อกันความผิดพลาด

ทว่าตลอดการทดสอบนั้น ตัว AI ก็ทำหน้าที่ได้ดีเกินคาด ดีจนทางกองทัพอากาศเกิดมีความกังวล ที่จะติดตั้งระบบขับเคลื่อนอัตโนมัตินี้ในฝูงบินทั้งหมด พร้อมกับมีการกล่าวด้วยว่า ทางกองทัพไม่ได้มีความพยายามที่จะแทนที่นักบินด้วย AI แต่เป็นการเสริมขีดความสามารถให้กับนักบินมากกว่า

ตัวอย่างเช่น หากนักบินเกิดหมดสติหรือเสียชีวิต แต่ตัวเครื่องบินยังใช้งานได้ ก็จะเป็นการช่วยนักบินหรือการเก็บรักษาตัวเครื่องบินได้นั่นเอง

อ้างอิง : https://www.techhub.in.th/the-us-military-may-have-folded-plans-to-use-ai-to-pilot-fighter-jets-instead-of-humans/

Anthropic ที่ลงทุนโดย Google เปิดตัว “Claude” แชทบอท AI ที่พูดคุยด้วยได้ง่ายขึ้น

Anthropic กล่าวว่า chatbot ของบริษัทนั้น ‘มีโอกาสน้อยกว่าที่จะสร้างผลลัพธ์ที่เป็นอันตราย’ เมื่อเทียบกับคู่แข่งหลายๆราย เช่น Bing ที่ขับเคลื่อนด้วย GPT-4 ของ Microsoft

Anthropic บริษัทปัญญาประดิษฐ์ที่ก่อตั้งโดยอดีตพนักงานของ OpenAI ได้เปิดตัวแชทบอท AI Claude ซึ่งแม้ว่าเครื่องมือจะทำสิ่งที่ ChatGPT ของ OpenAI ทำได้ แต่ทาง Anthropic กล่าวว่าลูกค้ารายแรกๆ ที่ใช้งานรายงานว่าเครื่องมือนี้ “มีโอกาสน้อยที่จะสร้างผลลัพธ์ที่เป็นอันตราย” และ “สนทนาด้วยได้ง่ายกว่า”

Google ลงทุน 300 ล้านดอลลาร์ใน Anthropic ในเดือนกุมภาพันธ์ โดยแชทบอทของบริษัทสามารถสรุปข้อมูล ตอบคำถาม ให้ความช่วยเหลือในการเขียน และสร้างโค้ดได้ คุณยังสามารถปรับแต่งน้ำเสียง บุคลิกภาพ และพฤติกรรมของแชทบอท ซึ่งฟังดูครอบคลุมกว่าการตั้งค่าที่แชทบอทของ Bing เสนอเล็กน้อย โดยรวมแล้ว เป้าหมายของ Anthropic คือการพัฒนาผู้ช่วย AI ที่ “เป็นประโยชน์ ซื่อสัตย์ และไม่เป็นอันตราย” นอกจากนี้ยังไม่สามารถเชื่อมต่อเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ เนื่องจาก Anthropic กล่าวว่าได้รับการออกแบบมาให้ “อยู่ในตัวเอง”

นอกเหนือจากการเปิดตัว Claude เวอร์ชันมาตรฐานแล้ว Anthropic ยังเปิดตัว Claude Instant ซึ่งเป็นรุ่นที่ถูกกว่า เร็วกว่า และเบากว่า Anthropic ยังได้ให้หลายบริษัทเข้าถึง Claude ในช่วงหลายเดือนก่อนการเปิดตัว รวมถึง Notion, Quora และ DuckDuckGo ซึ่งเพิ่งประกาศเปิดตัวเครื่องมือค้นหา DuckAssist ที่ขับเคลื่อนโดย Anthropic และ OpenAI

การประกาศของ Anthropic เกิดขึ้นท่ามกลางข่าวที่เกี่ยวข้องกับ AI รวมถึงการเปิดตัวโมเดล GPT-4 ใหม่ล่าสุดของ OpenAI Google ยังประกาศแอปพลิเคชัน AI ใหม่ใน Docs, Gmail, Sheets และ Slides

อ้างอิง : https://www.theverge.com/2023/3/14/23640056/anthropic-ai-chatbot-claude-google-launch

Bing AI นั้นมีการแอบใช้ GPT-4 มาสักพักแล้ว

Bing chatbot รุ่นใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ของ Microsoft มีการใช้โมเดล GPT-4 ที่เพิ่งเปิดตัวใหม่มาโดยตลอด

OpenAI เพิ่งประกาศเปิดตัวโมเดลภาษา GPT-4 AI เจนเนอเรชั่นถัดไป แต่ปรากฎว่ามีแอปพลิเคชันหลักที่ใช้มันแล้ว นั่นก็คือ Bing ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ของ Microsoft

“เรายินดีที่จะยืนยันว่า Bing ใหม่นั้นทำงานด้วยโมเดล GPT-4 ซึ่งปรับแต่งสำหรับการค้นหาโดยเฉพาะ” ตามบล็อกโพสต์จาก Yusuf Mehdi หัวหน้าฝ่ายการตลาดผู้บริโภคของ Microsoft “หากคุณใช้ Bing ใหม่ในการแสดงตัวอย่างเมื่อใดก็ได้ในช่วงหกสัปดาห์ที่ผ่านมา แสดงว่าคุณได้ดูพลังของโมเดลล่าสุดของ OpenAI ก่อนใครแล้ว”

แชทบอท Bing ที่ขับเคลื่อนด้วย AI จะให้คำตอบโดยสรุปสำหรับคำค้นหาของคุณในลักษณะที่ตั้งใจให้เกิดการสนทนามากกว่าการให้ลิงก์ต่างๆเพื่อให้ไปทำความเข้าใจเอง โดยมันจะได้รับประโยชน์จากการปรับปรุงในอนาคตของ OpenAI เป็น “GPT-4 และอื่น ๆ” Mehdi กล่าว นอกจากนี้ บริษัทยังผ่อนปรนข้อจำกัดที่วางไว้บน Bing AI chatbot เพื่อป้องกันพฤติกรรมของคนแปลกหน้า ผู้ใช้จะสามารถใช้งานได้ 15 รอบต่อเซสชันและสูงสุด 150 รอบต่อวัน ตามข้อมูลของ Bing CVP Jordi Ribas

อ้างอิง : https://www.theverge.com/2023/3/14/23639928/microsoft-bing-chatbot-ai-gpt-4-llm

Google เปิดตัวฟีเจอร์ AI ใน Gmail, Docs และอื่นๆ เพื่อแข่งขันกับ Microsoft

Google ได้ประกาศเปิดตัวฟีเจอร์ generative AI สำหรับแอป Workspace ต่างๆ เช่น Google Docs, Gmail, Sheets และ Slides

ฟีเจอร์ดังกล่าวประกอบด้วยวิธีใหม่ๆ ในการสร้าง สรุป และระดมสมองข้อความด้วย AI ใน Google Docs (คล้ายกับจำนวนผู้ใช้ ChatGPT ของ OpenAI) ตัวเลือกในการสร้างอีเมลฉบับเต็มใน Gmail ตามหัวข้อสั้นๆ ของผู้ใช้ และความสามารถในการสร้าง ภาพ เสียง และวิดีโอ AI เพื่อแสดงงานนำเสนอในสไลด์ (คล้ายกับฟีเจอร์ใน Microsoft Designer ซึ่งขับเคลื่อนโดย DALL-E ของ OpenAI และ Canva ซึ่งขับเคลื่อนโดย Stable Diffusion)

การประกาศดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงความกระตือรือร้นของ Google ที่จะไล่ตามคู่แข่งในการแข่งขันด้าน AI นับตั้งแต่การมาถึงของ ChatGPT ในปีที่แล้วและการเปิดตัว Bing ที่รองรับแชทบอทของไมโครซอฟท์ในเดือนกุมภาพันธ์นี้ ยักษ์ใหญ่ด้านการค้นหาก็พยายามที่จะเปิดตัวฟีเจอร์ AI ที่คล้ายกัน มีรายงานว่าบริษัทได้ประกาศ “code red” ในเดือนธันวาคม โดยผู้บริหารระดับสูงบอกให้พนักงานเพิ่มเครื่องมือ AI ให้กับผลิตภัณฑ์ของผู้ใช้ทั้งหมดซึ่งมีผู้ใช้หลายพันล้านคนในเวลาไม่กี่เดือน

แม้ว่าบริษัทจะประกาศฟีเจอร์ใหม่ ๆ มากมาย แต่เครื่องมือการเขียน AI ใน Docs และ Gmail ชุดแรก ๆ จะพร้อมใช้งานสำหรับกลุ่ม “ผู้ทดสอบที่เชื่อถือได้” ในสหรัฐฯ ในเดือนนี้ และทาง Google กล่าวว่าฟีเจอร์หล่านี้และฟีเจอร์อื่น ๆ จะให้บริการแก่สาธารณะในช่วงปลายปี แต่ไม่ได้ระบุว่าเมื่อใด

โดยรายการฟีเจอร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ทั้งหมดที่ Google บอกว่าจะมาถึงแอพ Workspace ในอนาคตมีดังนี้:

  • การร่าง ตอบกลับ สรุป และจัดลำดับความสำคัญของ Gmail
  • การระดมสมอง พิสูจน์อักษร เขียน และเขียนใหม่ใน Docs
  • ทำให้วิสัยทัศน์ที่สร้างสรรค์ของคุณเป็นจริงด้วยรูปภาพ เสียง และวิดีโอที่สร้างขึ้นโดยอัตโนมัติใน Slides
  • เปลี่ยนจากข้อมูลดิบเป็นข้อมูลเชิงลึกและการวิเคราะห์ผ่านการเติมข้อความอัตโนมัติ การสร้างสูตร และการจัดหมวดหมู่ตามบริบทใน Sheets
  • สร้างพื้นหลังใหม่และบันทึกโน้ตใน Meet
  • เปิดใช้เวิร์กโฟลว์เพื่อทำสิ่งต่างๆ ให้เสร็จใน Chat

อย่างไรก็ตามแน่นอนว่าการเร่งรีบในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ AI ก็มีอันตรายเช่นกัน โปรแกรมสร้างข้อความ AI นั้นมีชื่อเสียงที่ไม่น่าเชื่อถือ โดยมันมักจะให้ข้อมูลเท็จ และนำเสนอด้วยความมั่นใจสูง พวกมันยังมีแนวโน้มที่จะแสดงให้เห็นถึงอคติทางเชื้อชาติและเพศในข้อมูลที่ใช้ในการฝึกอบรมของพวกมัน

อ้างอิง : https://www.theverge.com/2023/3/14/23639273/google-ai-features-docs-gmail-slides-sheets-workspace

“MAVE” เกิร์ลกรุ๊ป AI วงแรกของเกาหลีใต้ บุกเมตาเวิร์ส

เมฟ (MAVE) เกิร์ลกรุ๊ปวงใหม่ของเกาหลีใต้ที่เพิ่งเปิดตัวไม่นานมานี้ ประกอบด้วยสมาชิก 4 คน ได้แก่ ซู ซีน่า ไทร่า และมาร์ตี้ แต่สมาชิกทั้ง 4 คนนี้ ไม่มีตัวอยู่จริง เพราะทุกคน รวมถึงการแสดงทั้งหมด ถูกสร้างขึ้นจากคอมพิวเตอร์ โดยทีมผู้สร้างได้พัฒนาเครื่องมือและปัญญาประดิษฐ์รุ่นใหม่ เพื่อสร้างการแสดงสีหน้าที่สมจริง และใช้เทคโนโลยีจับการเคลื่อนไหวสร้างการเคลื่อนไหวที่เป็นธรรมชาติให้กับทุกส่วนของร่างกาย รวมถึงเสื้อผ้าและเส้นผม

ทีมผู้สร้างระบุว่า สาว ๆ วง MAVE มาจากโลกอนาคตที่เรียกว่า ไอดีเปีย (IDYPIA) โดยพวกเธอเดินทางย้อนเวลามายังปี 2023 เพื่อตามหาเสรีภาพด้านความรู้สึก
โดยตั้งแต่ MAVE ปล่อยอัลบั้มแรกเมื่อวันที่ 25 มกราคม และโชว์ซิงเกิลแรก แพนโดร่า (Pandora) ในรายการ โชว์มิวสิคคอร์ (Show! Music Core) ทางช่องเอ็มบีซี (MBC) คลิปการแสดงของพวกเธอที่ถูกโพสต์ลงบนยูทูบก็กลายเป็นไวรัล และมียอดวิวมากกว่า 3 ล้านวิว
ขณะที่ทีมผู้สร้างก็ได้โพสต์คลิปแนะนำตัวและรูปของสมาชิกในวงที่สตูดิโอซ้อมเต้นบนโซเชียลมีเดียเพื่อเข้าถึงแฟน ๆ โดยสมาชิกวง MAVE ตอนนี้สามารถพูดได้ 3 ภาษา คือ อังกฤษ ฝรั่งเศส และอินโดนีเซีย ซึ่งสะท้อนถึงการตัดสินใจที่จะดึงดูดตลาดต่างประเทศ

สำหรับการเปิดตัวของวง MAVE มีขึ้นในช่วงเวลาที่เมต้า บริษัทแม่ของเฟซบุ๊ก ขาดทุนหลายพันล้านดอลลาร์กับโปรเจกต์เมตาเวิร์ส ขณะที่แผนของรัฐบาลกรุงโซลที่จะเป็นเมืองแรกที่เข้าไปอยู่ในเมตาเวิร์สก็แทบไม่มีความคืบหน้า
ทั้งนี้แต่ทีมที่อยู่เบื้องหลังโปรเจกต์ MAVE ก็ยังเชื่อมั่น และมองว่าความสำเร็จของโปรเจกต์นี้จะให้คำตอบเบื้องต้นว่า ตลาดโลกเสมือนจริงและความจริงเสมือนจะเติบโตอย่างก้าวกระโดดหรือไม่ หรือว่าจะเป็นแค่กระแสช่วงสั้น ๆ แล้วก็หายไป

ขณะที่ทีมโปรดิวเซอร์ของรายการ Show! Music Core ระบุว่า พวกเขาต้องปรับตัวเข้ากับเทคโนโลยีใหม่ และพยายามนำเสนอวงนี้เหมือนกับวงเคป๊อปที่เป็นคนจริงๆ วงอื่นๆ ซึ่งพวกเขาก็อยากรู้ว่าแฟนๆ จะตอบรับอย่างไร

แม้ว่าแฟน ๆ ที่สนใจด้านเทคโนโลยีจะให้การตอบรับเป็นอย่างดี แต่ก็มีหลายคนที่รู้สึกว่า พวกเธอยัง “จริง” ไม่พอ เพราะพวกเขาไม่สามารถมีปฏิสัมพันธ์ได้ในชีวิตจริง
อย่างไรก็ตาม ทีมผู้สร้าง MAVE หวังว่าจะลดช่องว่างตรงนี้ โดยให้พวกเธอมีตัวตนในโลกเสมือนจริงมากขึ้น ซึ่งแทนที่จะจัดคอนเสิร์ต สมาชิกวง MAVE ได้ปรากฏตัวในซีรีส์เว็บตูนเกี่ยวกับวงเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ รวมถึงวิดีโอเกมที่จะออกในเดือนนี้ ขณะที่ทีมผู้สร้างกำลังอยู่ระหว่างเตรียมโปรเจกต์เสมือนจริงอื่น ๆ เพื่อสร้างกระแสและฐานแฟนคลับให้แข็งแกร่งต่อไป

อ้างอิง : https://www.pptvhd36.com/news/%E0%B9%84%E0%B8%AD%E0%B8%97%E0%B8%B5/192485

Duolingo แอปสอนภาษาอังกฤษยอดนิยม เปิดตัว Duolingo Max เพิ่ม AI สนทนาโต้ตอบ GPT-4 จาก OpenAI

Duolingo แอปสอนภาษาสุดฮิต ที่ได้รับความนิยมสำหรับการศึกษา ประกาศเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ โดยใช้ GPT-4 แชทบอทที่ฉลาดขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าของ OpenAI มารองรับการโต้ตอบบทสนทนาในการฝึกภาษา หรือจำลองสถานการณ์ ในการเพิ่ม Subscription ตัวใหม่แบบ Duolingo Max

Duolingo Max เป็นระดับการสมัครสมาชิกใหม่ ที่เหนือกว่า Super Duolingo ที่ผู้ใช้งานจะได้ประสบการณ์การเรียนที่ดีขึ้น เสมือนแบบฝึกหัดรูปแบบใหม่มีด้วยกัน 2 แบบ คือ Explain My Answer และ Roleplay โดยทั้งคู่ใช้การทำงานผ่าน เทคโนโลยี AI แชทบอต GPT-4 รุ่นใหม่ล่าสุดจาก OpenAI ที่สามารถประมวลข้อความที่ยาวถึง 25,000 คำ พร้อมทำความเข้าใจรูปภาพได้ พร้อมการตั้งคำถาม เพื่อให้ผู้เรียนได้ฝึกทักษะภาษาได้เก่งขึ้น

Duolingo Max จะมีฟีเจอร์ Explain My Answer สามารถใช้งานในการแชทเพื่อขอคำอธิบายเพิ่มเติม ถ้าเราตอบคำถามไม่ถูกต้อง รวมไปถึงการให้คำแนะนำที่ควรใช้ เช่น เราตอบประโยคภาษาอังกฤษผิดพลาด ผู้เรียนสามารถเข้าสู่แชทกับ Duo เพื่อรับคำอธิบายง่ายๆ ว่าเหตุใดคำตอบถึงถูกหรือผิด และขอตัวอย่างคำชี้แจงเพิ่มเติม
และอีกหนึ่งฟีเจอร์ คือ Roleplay หรือการสวมบทบาท เพื่อให้ผู้เรียนฝึกฝนทักษะการสนทนากับตัวละครภายในแอป ซึ่งจะมีระดับความท้าทายควบคู่ไปด้วย ในสถานการณ์จำลองต่าง ๆ เช่น การสั่งกาแฟ หรือไปซื้อเฟอร์นิเจอร์กับ Eddy หรือจะชวนเพื่อนไปเดินป่า ปีนเขา แล้วแต่การจำลองของเรา โดย AI จะสรุปและให้คะแนนคุณภาพการสนทนาไปในตัว ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้คุยกับมนุษย์จริง ๆ แต่สามารถเรียนรู้ได้จากแชทบอท AI เกี่ยวกับความแม่นยำและความซับซ้อนของคำตอบ ตลอดจนเคล็ดลับสำหรับการสนทนาในอนาคตอีกด้วย
ทำให้ทุกคนไม่ต้องกังวลใจไปเรื่องเนื้อหา เพราะมีผู้เชี่ยวชาญด้านหลักสูตรและนักออกแบบคอยดูแลการทำงานของ AI เพื่อสร้างบทเรียนที่สนุกและมีประสิทธิภาพให้ผู้เรียนได้อย่างแน่นอน ตอนนี้ Duolingo Max เปิดให้ทดสอบให้ใช้งานสำหรับผู้ใช้ iOS เป็นกลุ่มแรก ในโหมดการเรียนภาษาสเปนและฝรั่งเศส ของผู้ใช้งานที่พูดภาษาอังกฤษ และเตรียมเปิดให้ใช้งานสำหรับ Android ในไม่กี่เดือนข้างหน้า พร้อมรองรับภาษาที่มากขึ้น

อ้างอิง : https://droidsans.com/introducing-duolingo-max-a-learning-experience-powered-by-gpt-4/

อาชีพใหม่ Prompt Engineer เงินดีแต่ต้องคุยกับ AI ให้รู้เรื่อง

หลังเกิดกระแสการใช้งานเทคโนโลยี AI ทำให้หลายคนตื่นเต้นกับความสามารถและมีความหวาดกลัวว่าบางตำแหน่งงานอาจจะโดน AI มากดดัน แต่ในขณะเดียวกันก็มีอาชีพใหม่เกิดขึ้น นั่นก็คือ Prompt Engineer

Prompt Engineer คืออะไร
Prompt Engineer คือตำแหน่งงานที่มีความสามารถในการดึงประสิทธิภาพสูงสุดของ AI มาใช้ ผ่านคำสั่งที่ป้อนเข้าไป (prompt) และทำให้ AI ตอบกลับได้ตรงความต้องการของเรามากที่สุดพร้อมบริบทที่ครบถ้วน โดยคำสั่งที่เราป้อนเข้าไป คือ Input และผลลัพธ์ที่ AI ตอบเรากลับมา คือ Output หน้าที่ของ Prompt Engineer คือหา Input ดีๆ ใส่เข้าไปทำให้เราได้ Output ดีๆ กลับออกมา โดยไม่เกิดอาการหลอน (hallucination) หรือตอบคำถามไม่ตรงบริบท พร้อมพัฒนาฐานข้อมูลโดยการเทรนข้อมูลให้กับโมเดล

การจ้างงานตำแหน่ง Prompt Engineer
ทั้งการเกิดใหม่และการมาแรงของเทคโนโนโลยีเปลี่ยนโลกนี้ ทำให้หลายบริษัทเริ่มที่จะเปิดรับตำแหน่งงานที่ทำหน้าที่คุยกับ AI หรือจะเรียกว่าเป็นนักจิตวิทยาสำหรับ AI ก็ว่าได้ ตามที่นักวิจัยที่อยู่ในทีม OpenAI อย่าง Andrej Karpathy ได้นิยามเอาไว้

Anthropic สตาร์ทอัพ AI ที่เน้นเรื่องของความปลอดภัยที่ได้รับการหนุนหลังจาก Alphabet บริษัทแม่ของ Google ผ่านการระดมทุน 300 ล้านเหรียญฯ เปิดรับตำแหน่ง Prompt Engineer and Librarian โดยให้ค่าตอบแทนสูงถึง 175,000 – 335,000 เหรียญฯ ต่อปี

BoardingArea สำนักข่าวสำหรับสายบิน รวมข่าวเกี่ยวกับวงการเครื่องบินและการบิน ได้เปิดรับตำแหน่ง Prompt Engineer แบบ part-time ที่มีความเชี่ยวชาญเรื่อง AI/machine learning โดยชื่อตำแหน่งที่เปิดรับคือ ChatGPT Specialist หรือผู้เชี่ยวชาญ ChatGPT นั่นเอง อัตราค่าตอบแทนอยู่ที่ 44,300 – 56,000 เหรียญฯ ต่อปี

Klarity บริษัทรับตรวจการทำสัญญาโดยใช้ Natural Language Processing (NLP)ช่วยตรวจเอกสารสัญญาระดับองค์กร ได้เปิดรับตำแหน่งงานประจำ ML Engineer โดยให้ค่าตอบแทนอยู่ที่ 130,000 – 230,000 เหรียญฯ ต่อปี

ตลาดซื้อขายแลกเปลี่ยน prompt
การสร้าง prompt ไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์และความเข้าใจในตัวโมเดล AI ที่เราใช้งาน พร้อมการทดลองให้ได้ output ออกมาในหลายๆ รูปแบบ ทำให้ prompt เปรียบเสมือนไอเดียที่เราสามารถนำไปขายได้ เช่น ตลาดซื้อขาย prompt ที่เปิดตัวในปี 2022 อย่าง PromptBase ก็เป็นหนึ่งในตลาดออนไลน์ที่มีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 1.99 เหรียญฯ สำหรับการซื้อคำสั่งพร้อมแสดงตัวอย่างผลลัพธ์ที่เราจะได้จากการใช้ prompt

อีกตลาดแนว web3 ที่เป็นการซื้อขาย prompt โดยจ่ายผ่านคริปโทได้คือ PromptSea (คล้าย OpenSea ที่เป็นตลาดซื้อขาย NFT) ชูจุดเด่นว่าเป็นตลาดซื้อขาย prompt ในรูปแบบ Hybrid NFT ที่อยู่ระหว่าง Public และ Private บล็อคเชน เรียกว่าเป็น PromptNFT ผ่านการใช้มาตรฐาน ERC-1155

อ้างอิง : https://techsauce.co/tech-and-biz/prompt-engineer

—————————————————————————————-

ทั้งหมดเป็นข่าวที่น่าสนใจใน  10 – 16 มีนาคม 2565 พบกันใหม่ในสัปดาห์หน้านะคะ : )

หากมีข้อสงสัย ติชมสามารถ ติดตามและสอบถามได้ที่
 : AIไทยสามารถ โดย AI for all Thailand



เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

อนุญาตทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • Always Active

บันทึก