ข่าว AI รอบโลก – สัปดาห์ที่ 5 เดือนมีนาคม 2023

คอมพิวเตอร์ชีวภาพจากเซลล์สมองมนุษย์ คู่แข่งของ AI ในอนาคต ?

กลุ่มนักวิทย์นานาชาติ เสนอแนวทางการพัฒนา “ปัญญาชีวะ” (Organoid Intelligence – OI) คอมพิวเตอร์ชีวภาพจากเซลล์ของมนุษย์ ซึ่งมีศักยภาพในการคำนวณเรื่องราวที่ซับซ้อน และเก็บข้อมูลได้มากกว่าคอมพิวเตอร์ในปัจจุบัน
ถึงแม้ว่าปัญญาประดิษฐ์หรือ AI ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันของมนุษย์เป็นอย่างมากในทุกวันนี้ ไม่ว่าจะเป็นการวินิจฉัยทางการแพทย์ หรือการควบคุมระบบสายพานการผลิตในโรงงานก็ตาม สมองของมนุษย์นั้นก็ยังคงเหนือกว่า AI ในหลากหลายด้าน โดยเฉพาะด้านความคิดสร้างสรรค์และการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า

ด้วยเหตุนี้กลุ่มนักวิทยาศาสตร์จากหลายประเทศ ซึ่งนำโดยมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ (Johns Hopkins University) จึงได้ร่วมกันศึกษาความเป็นไปได้ของ “ปัญญาชีวะ” (Organoid Intelligence – OI) คอมพิวเตอร์ชีวภาพจากสเต็มเซลล์ของมนุษย์ ที่มีเส้นประสาทเชื่อมต่อระหว่างกัน พร้อมกับสร้างตัวอย่างทดลองขึ้นมา เพื่อนำไปศึกษาและพัฒนาให้มีศักยภาพเหนือกว่า AI ในอนาคต

โดยคอมพิวเตอร์ชีวภาพนี้ได้รับการเลี้ยงดูในสภาพแวดล้อมที่อบอุ่น คล้ายกับสมองที่อยู่ในร่างกายของมนุษย์ ในขณะที่นักวิทยาศาสตร์ต้องป้อนน้ำตาลและออกซิเจนเข้าไปช่วยในการเจริญเติบโตด้วย จนก้อนเนื้อนี้สามารถแบ่งตัวได้ประมาณ 50,000 เซลล์ ซึ่งงานวิจัยที่จัดทำโดย Dr.Brett Kagan หนึ่งในนักวิทยาศาสตร์ผู้ร่วมศึกษาความเป็นไปได้ของปัญญาชีวะ เมื่อปี ค.ศ. 2022 ได้พิสูจน์ว่าคอมพิวเตอร์ชีวภาพนั้นสามารถเล่นเกมตีลูกบอลไปมาอย่างง่าย ๆ ได้

นอกจากนี้ เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ชีวภาพก็ยังมีความสามารถด้านการบรรจุข้อมูลที่เหนือกว่าคอมพิวเตอร์ทั่วไป เมื่อเทียบกับปริมาณพื้นที่ที่เท่ากัน และใช้พลังงานในการทำงานน้อยกว่าอีกด้วย แต่ทว่าการที่จะพัฒนาศักยภาพการคำนวณของปัญญาชีวะให้เทียบเท่ากับสมองมนุษย์นั้น นักวิทยาศาสตร์ต้องเพิ่มจำนวนเซลล์ให้มากกว่าเดิมถึง 500 เท่า จาก 50,000 เซลล์ให้กลายเป็น 10 ล้านเซลล์ให้ได้เสียก่อน ซึ่งต้องอาศัยเทคโนโลยีและเครื่องมือในอนาคตที่ดีกว่าเดิม

ถ้าหากนักวิทยาศาสตร์สามารถพัฒนาคอมพิวเตอร์ชีวภาพที่สามารถคำนวณเรื่องราวที่ซับซ้อนได้จริง เทคโนโลยีก็อาจช่วยปูทางไปสู่การรักษาโรคอัลไซเมอร์ หรือโรคอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับสมองได้อีกด้วย ผ่านการทดลองใช้ยาและสารเคมีกับคอมพิวเตอร์ชีวภาพ โดยที่ไม่ต้องนำไปทดลองกับมนุษย์จริง ๆ

ถึงกระนั้นนักวิทยาศาสตร์กลุ่มนี้ก็ได้กล่าวในงานวิจัยว่า พวกเขาก็ยังคงมีความกังวลว่าปัญญาชีวะ อาจพัฒนาความรู้สึกนึกคิดเหมือนมนุษย์ขึ้นมาได้ เหมือนกับความหวาดกลัวว่า AI จะระลึกถึงตัวตนได้เช่นกัน ดังนั้นพวกเขาจึงได้ร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญด้านจริยธรรมเพื่อกำหนดขอบเขตการวิจัยอย่างเหมาะสม

อ้างอิง : https://www.thaipbs.or.th/news/content/325853

Coinbase ทดลองใช้ ChatGPT เป็น AI ผู้ช่วยในการประเมินความเสี่ยงของ Crypto ก่อนลิสต์ขึ้นบนกระดาน

เว็บเทรด Coinbase ได้ทดสอบการนำ ChatGPT ของ OpenAI มาประยุกต์ใช้เป็นเครื่องมือตรวจสอบโทเคนอัตโนมัติ แล้วนำผลลัพธ์ของ AI มาเปรียบเทียบกับขั้นตอนการตรวจสอบตามมาตรฐานความปลอดภัย ทั้งนี้ผลปรากฏว่า “มากกว่าครึ่งหนึ่ง” ของผลการตรวจสอบโดย AI นั้นเหมือนกับมาตรการตรวจสอบตามขั้นตอนของทางเว็บเทรด

อย่างไรก็ตาม ChatGPT ได้อนุมัติโทเคนที่มีความเสี่ยงสูงจำนวน 5 รายการ ในขณะที่ Coinbase อาจมีการควบคุมโทเคนเหล่านั้น โดยการทดสอบครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งในความพยายามของ Coinbase สำหรับการตามหาวิธีการที่มีประสิทธิภาพในการตรวจสอบโทเคนรูปแบบใหม่ ก่อนที่จะตัดสินใจลิสต์รายการสินทรัพย์ลงบนกระดานเทรด

Coinbase ชี้ให้เห็นว่าทีม Blockchain Security ใช้เครื่องมืออัตโนมัติที่พัฒนาขึ้นภายในองค์กร เพื่อช่วยวิศวกรด้านความปลอดภัยในการตรวจสอบ smart contract “ERC20/721” และอธิบายถึงความคิดริเริ่มของการนำ AI มาปรับใช้ โดยกล่าวว่า: “ด้วยการเกิดมาถึงของ ChatGPT และความสามารถในการตรวจจับช่องโหว่ด้านความปลอดภัย เราต้องการทดสอบว่าสิ่งนี้จะทำงานได้ดีแค่ไหนในฐานะเครื่องมือระดับแนวหน้าที่ใช้ในวงกว้าง แทนที่จะเป็นแค่ code reviewer เพียงอย่างเดียว”

นอกจากการระบุช่องโหว่ด้านความปลอดภัยแล้ว Coinbase ยังพบด้วยว่า ChatGPT สามารถใช้เป็นเครื่องมือ AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของ code ได้อีกด้วย “ChatGPT แสดงให้เห็นถึงคำมั่นสัญญาว่าจะเป็นประโยชน์ในการปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานในด้านการพัฒนาและงานด้านวิศวกรรมที่หลากหลาย” Coinbase กล่าวเสริม

เว็บเทรด Crypto ชั้นนำของอเมริกาดำเนินการทดสอบเพื่อเปรียบเทียบ “ความถูกต้อง” ในการตรวจสอบความปลอดภัยของโทเคนที่ดำเนินการโดย ChatGPT กับการตรวจสอบตามขั้นตอนที่ดำเนินการโดยวิศวกรความปลอดภัยโดยใช้เครื่องมือภายในองค์กร แล้วจากนั้นจึงสร้างคะแนนความเสี่ยงที่เทียบเคียงได้ นักวิจัยเปรียบเทียบคะแนนความเสี่ยงของ smart contract จำนวน 20 รายการระหว่าง Chatgpt กับการตรวจสอบความปลอดภัยของทางแพลตฟอร์ม โดย AI ให้ผลลัพธ์เช่นเดียวกันกับการตรวจสอบของทางแพลตฟอร์มจำนวน 12 ครั้ง พลาดไป 8 ครั้ง และอีก 5 ครั้งคือกรณีที่ ChatGPT ระบุสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง “การประเมินคะแนนความเสี่ยงต่ำเกินไปนั้นส่งผลเสียมากกว่าการประเมินว่าสูงเกินไป” Coinbase ระบุในบล็อกโพสต์

แม้จะมี “ความล้มเหลวในกรณีที่เลวร้ายที่สุด” และแนวโน้มว่าเครื่องมืออาจจะให้คำตอบไม่สอดคล้องกันเมื่อถามคำถามเดียวกันหลายครั้ง แต่ทว่า Coinbase ยังคงเล็งเห็นถึงประสิทธิภาพของการตรวจสอบโดย ChatGPT อย่างไรก็ตาม ในท้ายที่สุดแล้ว Coinbase ก็ได้ยืนยันว่า ChatGPT จำเป็นต้องได้รับการสอนวิธีระบุความเสี่ยงตามมาตรฐานการตรวจสอบความปลอดภัยของแพลตฟอร์มเอง

อ้างอิง : https://siamblockchain.com/2023/03/24/coinbase-tries-ai-assistant-chatgpt-for-pre-listing-risk-assessment-of-tokens/

Elon Musk และนักวิจัย AI ชั้นนำเรียกร้องให้หยุด “การทดลองโมเดล AI ขนาดใหญ่” ชั่วคราว

Elon Musk และ นักวิจัยด้าน AI ที่มีชื่อเสียงจำนวนหนึ่ง ได้ลงนามในจดหมายเปิดผนึกเรียกร้องให้ห้องปฏิบัติการ AI ทั่วโลกหยุดการพัฒนาระบบ AI ขนาดใหญ่ชั่วคราว โดยอ้างถึงความกลัวต่อ “ความเสี่ยงต่อสังคมและมนุษยชาติ”

จดหมายที่จัดพิมพ์โดย Future of Life Institute องค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร ระบุว่าห้องปฏิบัติการ AI ในปัจจุบันอยู่ในสภาวะ “การแข่งขันที่ควบคุมไม่ได้” เพื่อพัฒนาและปรับใช้ระบบการเรียนรู้ของเครื่อง “ที่ไม่มีใคร แม้แต่ผู้สร้างก็สามารถเข้าใจ ทำนายได้ หรือมีความสามารถในการควบคุมที่เชื่อถือได้”

“ดังนั้นเราจึงเรียกร้องให้ห้องปฏิบัติการ AI ทั้งหมดหยุดชั่วคราวเป็นเวลาอย่างน้อย 6 เดือนเพื่อฝึกอบรมระบบ AI ที่ทรงพลังกว่า GPT-4” จดหมายกล่าว “การหยุดชั่วคราวนี้ควรเปิดเผยต่อสาธารณะและตรวจสอบได้ และรวมถึงผู้มีส่วนสำคัญทั้งหมด หากไม่สามารถประกาศใช้การหยุดชั่วคราวได้เร็ว รัฐบาลควรเข้ามาดำเนินการ”

ผู้ลงนาม ได้แก่ ผู้เขียน Yuval Noah Harari, Steve Wozniak ผู้ร่วมก่อตั้ง Apple, Jaan Tallinn ผู้ร่วมก่อตั้ง Skype, Andrew Yang นักการเมือง และนักวิจัย AI และ CEO ที่มีชื่อเสียงหลายคน รวมถึง Stuart Russell, Yoshua Bengio, Gary Marcus และ Emad Mostaque

ตามที่ระบุไว้ในจดหมาย แม้แต่ OpenAI เองก็ยังแสดงความต้องการสำหรับ “การตรวจสอบโดยอิสระ” ของระบบ AI ในอนาคตเพื่อให้แน่ใจว่าเป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัย “ห้องปฏิบัติการ AI และผู้เชี่ยวชาญอิสระควรใช้การหยุดชั่วคราวนี้เพื่อร่วมกันพัฒนาและใช้ชุดโปรโตคอลความปลอดภัยที่ใช้ร่วมกันสำหรับการออกแบบและพัฒนา AI ขั้นสูงที่ได้รับการตรวจสอบและควบคุมอย่างเข้มงวดโดยผู้เชี่ยวชาญภายนอกที่เป็นอิสระ” พวกเขาเขียน “โปรโตคอลเหล่านี้ควรทำให้แน่ใจว่าระบบที่ปฏิบัติตามนั้นปลอดภัยโดยปราศจากข้อสงสัยอันสมเหตุสมผล”

อ้างอิง : https://www.theverge.com/2023/3/29/23661374/elon-musk-ai-researchers-pause-research-open-letter

รัฐบาลสหรัฐกำลังเตรียมพร้อมสำหรับการ “ต่อต้านการผูกขาดของ AI”

คณะกรรมาธิการการค้าแห่งสหพันธรัฐสหรัฐ (FTC) และแผนกต่อต้านการผูกขาดของกระทรวงยุติธรรมกล่าวว่าพวกเขาจะตรวจสอบเครื่องมือที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์เพื่อหาความเป็นไปได้ของพฤติกรรมต่อต้านการแข่งขัน

Lina Khan ประธาน FTC และหัวหน้าฝ่ายต่อต้านการผูกขาดของกระทรวงยุติธรรม Jonathan Kanter ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวในการประชุมสุดยอดผู้บังคับใช้กฎหมายร่วมของหน่วยงาน โดยสร้างความหวาดกลัวว่าบริษัทขนาดใหญ่ใช้ประโยชน์จากการประหยัดต่อขนาด (economies of scale) ของ AI เพื่อความได้เปรียบอย่างสูงในการแข่งขัน

“เมื่อคุณมีแมชชีนเลิร์นนิงที่ขึ้นอยู่กับข้อมูลจำนวนมหาศาลและยังขึ้นอยู่กับพื้นที่เก็บข้อมูลจำนวนมากด้วย เราจึงต้องระมัดระวังอย่างมากเพื่อให้แน่ใจว่านี่จะไม่ใช่แค่รูปแบบหนึ่งสำหรับบริษัทขนาดใหญ่ที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วและได้เปรียบคู่แข่งเป็นอย่างมาก” Khan กล่าวในการประชุมสุดยอด ตามรายงานของ The Wall Street Journal

Kanter เสริมว่าความสามารถในตลาดของโมเดลปัจจุบันของ AI นั้น “ขึ้นอยู่กับขนาดหรือความสามารถในการขยายตัว” ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงที่จะถูกผูกขาดโดยบริษัทขนาดใหญ่ “ตลาดที่ขึ้นอยู่กับขนาดมักมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดปัญหาที่คู่แข่งรายย่อยไม่สามารถแข่งขันได้ มันสำคัญมากที่เราจะต้องเข้าใจสิ่งนั้น”

FTC ได้พยายามผลักดันอำนาจของตนไปยังอุตสาหกรรมเทคโนโลยีเกิดใหม่ที่ยังไม่ได้ถูกครอบงำโดยผู้ครอบครองตลาดแบบกึ่งถาวร เมื่อเร็ว ๆ นี้พยายามและล้มเหลวในการบล็อกการซื้อ Meta ผู้ผลิตชุดหูฟัง Quest VR ของ Inside ซึ่งเป็นผู้ผลิตแอป VR ฟิตเนสที่ Khan กล่าวว่าสามารถผลักดัน Meta ให้แข่งขันกับซอฟต์แวร์มากขึ้น

อ้างอิง : https://www.theverge.com/2023/3/28/23660101/ai-competition-ftc-doj-lina-khan-jonathan-kanter-antitrust-summit

Levi’s จะทดสอบโมเดลเสื้อผ้าที่สร้างโดย AI เพื่อ ‘เพิ่มความหลากหลาย’

Levi’s จะเริ่มทดสอบโมเดลเสื้อผ้าที่สร้างโดย AI ในปลายปีนี้ เพื่อเพิ่มความหลากหลายให้กับประสบการณ์การช็อปปิ้งออนไลน์ของบริษัท การทดลองที่วางแผนไว้ถูกเปิดเผยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วพร้อมกับความร่วมมือของ Levi กับ Lalaland.ai สตูดิโอแฟชั่นดิจิทัลที่สร้างโมเดลแฟชั่นที่สร้างจาก AI ที่เหมือนจริง

ปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ที่โฆษณาบนแอปหรือเว็บไซต์ Levi’s สามารถดูเสื้อผ้าที่มีโมเดลแบบเดียวเท่านั้น โมเดลเสื้อผ้า AI ที่สร้างขึ้นโดยความร่วมมือนี้อาจทำให้เกิดความหลากหลายได้มากขึ้น ทำให้ลูกค้าสามารถดูได้ว่าเสื้อผ้าชิ้นหนึ่งจะมีลักษณะอย่างไรในโมเดลต่างๆ ที่หลากหลาย ซึ่งครอบคลุมประเภทร่างกาย อายุ ขนาด และสีผิวที่หลากหลาย ตามทฤษฎีแล้ว สิ่งนี้ควรช่วยผู้บริโภคที่รู้สึกหงุดหงิดเมื่อเสื้อผ้าไม่ได้จำลองร่างกายที่คล้ายกับของพวกเขาเอง

แต่การประกาศความร่วมมือในตอนแรกนั้น เกิดคำถามหลายข้อไม่ได้รับคำตอบ Levi’s ไม่ได้บอกว่าโมเดล AI จะพร้อมใช้งานบนแพลตฟอร์มใดหรือโมเดลนั้นสามารถปรับแต่งได้โดยผู้ใช้เองหรือไม่ บริษัทยังอ้างว่าสิ่งนี้จะ “ยั่งยืน” มากกว่า แต่ไม่ได้อธิบายว่าเป็นอย่างไร

นอกจากนี้ยังทำให้เกิดคำถามว่าคนที่เป็นทำอาชีพเป็นโมเดลจริงจำนวนเท่าใดที่จะได้รับผลกระทบจากการทดลองนี้ Levi’s พยายามลดต้นทุนการดำเนินงานและประหยัดเงินในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยเลิกจ้างพนักงาน 800 คนในปี 2565 Levi’s กล่าวว่าโมเดลที่สร้างโดย AI จะ “เสริมโมเดลของมนุษย์จริง” เพื่อสร้างประสบการณ์การช็อปปิ้งที่ “เป็นส่วนตัว” มากขึ้นสำหรับลูกค้า นอกจากนี้ Amy Gershkoff Bolles หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์ด้านดิจิทัลและเทคโนโลยีเกิดใหม่ของ Levi Strauss & Co. กล่าวว่า “ในขณะที่ AI ไม่น่าจะมาแทนที่แบบจำลองของมนุษย์ได้อย่างสมบูรณ์ แต่เราตื่นเต้นกับความสามารถที่มีศักยภาพซึ่งอาจทำให้เราได้รับประสบการณ์ผู้บริโภค”

บริษัทอื่นๆ ได้นำเทคโนโลยีความจริงเสริม (AR) มาใช้เพื่อช่วยให้ผู้บริโภคเห็นภาพว่าเสื้อผ้าจะดูเป็นอย่างไรเมื่ออยู่บนร่างกายของตนเอง เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา Walmart ได้เปิดตัวประสบการณ์ Be Your Own Model ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถลองเสื้อผ้าได้เสมือนจริงโดยใช้รูปถ่ายของตนเองและเทคโนโลยี AR นอกจากนี้ Amazon Fashion ยังได้ร่วมมือกับ Snap เมื่อปีที่แล้ว โดยช่วยให้ผู้ใช้ Snapchat สามารถจำลองแว่นตาและแว่นกันแดดของแบรนด์โดยใช้ฟิลเตอร์ AR

อ้างอิง : https://www.theverge.com/2023/3/27/23658385/levis-ai-generated-clothing-model-diversity-denim

ชวนฮาแบบปัญญาประดิษฐ์ ขายหัวเราะ เปิดตัว การ์ตูนแก๊ก เล่มแรกที่ใช้ AI วาดภาพและคิดมุก

สร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับวงการการ์ตูนไทยเมื่อ “ขายหัวเราะ” แบรนด์การ์ตูนความฮาสามัญประจำบ้านของชาวไทย เปิดตัว ขายหัวเราะ ฉบับ AI < VER 1.2023 Beta > การ์ตูนแก๊กเล่มแรกในวงการการ์ตูนไทยที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ในการสร้างสรรค์เรื่องและภาพทั้งเล่ม คิดมุก วาดแก๊กการ์ตูนเชิงอารมณ์ขัน รวมถึงตีความปกและโลโก้ขายหัวเราะใหม่

โปรเจกต์ดังกล่าวเกิดจากการตั้งคำถามของทีมงานว่า ในเมื่อ AI สามารถตอบคำถามได้มากมาย แล้ว AI จะมีอารมณ์ขันหรือเปล่า จึงได้เริ่มทำโปรเจกต์ในรูปแบบเป็น Sandbox เพื่อถ่ายทอดอารมณ์ขันของ AI ซึ่งเราคงได้เรียนรู้การปรับตัวแบบใหม่ๆ ของทั้งเทคโนโลยีและมนุษย์อีกมากมายในอนาคต ทีมขายหัวเราะจึงรับบทบาทเป็นผู้ prompt (ป้อนคำสั่ง) เพื่อสร้างสรรค์อารมณ์ขันผ่านเนื้อหาการ์ตูน และสร้างสรรค์เกิดเป็น ขายหัวเราะ ฉบับ AI < VER 1.2023 Beta >

พิมพ์พิชา อุตสาหจิต ตัวแทนทีมขายหัวเราะ เปิดเผยว่า เราพยายามให้เนื้อหาขายหัวเราะ ฉบับ AI เล่มแรกนี้เป็นไปตามธรรมชาติที่แท้จริงของ AI มากที่สุด โดยทีมขายหัวเราะเปลี่ยนบทบาทมาเป็นผู้ป้อนคำสั่ง รวบรวม และเชื่อมต่อในส่วนที่ AI เวอร์ชันปัจจุบันยังไม่ครอบคลุม รวมถึงงานบรรณาธิการผ่านมุมมองความเชี่ยวชาญของทีม เพราะฉะนั้น แฟนๆ การ์ตูนจะได้เห็นความสามารถที่แท้จริงของ AI ปัจจุบัน

ขายหัวเราะ ฉบับ AI < VER 1.2023 Beta > ไซส์พิเศษ จะมีจำนวน 32 หน้า (ไม่รวมปก) พิมพ์สี่สีสวยงามทั้งเล่ม ผลิตจำนวนจำกัด Limited Edition สำหรับงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ระหว่างวันที่ 30 มี.ค.-9 เม.ย. เท่านั้น โดยแจกฟรีเฉพาะที่บูธขายหัวเราะ (บูธ i30) สำหรับผู้ที่ซื้อของในบูธครบ 555 บาท หรือหากแฟนๆ ท่านไหนอยากสะสมพิเศษ ก็สามารถซื้อแยกได้ในราคาอารมณ์ดี 55 บาท

ปัจจุบัน บทบาท AI ในฐานะผู้สร้างสรรค์กำลังเป็นปรากฏการณ์ในวงการต่างๆ ทั่วโลก โดยวงการการ์ตูนญี่ปุ่นก็เพิ่งเปิดตัววางจำหน่ายการ์ตูนมังงะเล่มแรกที่ใช้ AI วาดภาพประกอบทั้งเล่ม (Cyberpunk: Peach John) เช่นกัน เมื่อวันที่ 9 มีนาคมที่ผ่านมา.

อ้างอิง : https://www.thairath.co.th/business/2667110

Google จดสิทธิบัตรตัวใหม่ เตรียมทำระบบให้ AI เข้ามาเป็นผู้ช่วยทดสอบเกมในอนาคต

Google ยังคงเดินหน้ามองหาโอกาสที่จะนำ AI เข้ามาช่วยเหลืองานต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยหลังจากที่ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าบริษัทกำลังวิจัย AI ประพันธ์เพลง จนเรียกเสียงฮือฮาได้พอสมควร ล่าสุด Google ก็จดสิทธิบัตรตัวใหม่ เตรียมนำ AI เข้ามาเป็น “ผู้ช่วยทดสอบวิดีโอเกม” ที่กำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนา

โดยสิทธิบัตรดังกล่าว พูดถึงระบบตัวหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า “EFFICIENT GAMEPLAY TRAINING FOR ARTIFICIAL INTELLIGENCE” ซึ่งสามารถสร้างโมเดลสำหรับเล่นเกมในรูปแบบต่าง ๆ ผ่านการสังเกต Gameplay และฝึกฝนให้โมเดลมีความแม่นยำมากขึ้น ก่อนที่จะนำไปใช้ทดสอบจริงต่อไป

โดย Google ระบุถึงที่มาว่าเกมในยุคใหม่ ๆ นั้นไม่ได้มีความซับซ้อนเท่าแต่ก่อน แม้ว่ารูปแบบการเล่นจะเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละเกม ทว่าขั้นตอนในการทดสอบโดยส่วนใหญ่ก็แทบไม่เปลี่ยนแปลงไปเลย ดังนั้นมันจึงง่ายต่อการทำซ้ำ และมองหาข้อผิดพลาดเพื่อให้ผู้พัฒนานำกลับไปแก้ไข

Google ยังบอกด้วยว่าหลาย ๆ สตูดิโอพัฒนาเกมในยุคนี้ยังคงใช้ขั้นตอนแบบเดิม ๆ กันอยู่ จนเป็นปัจจัยให้เกิดปัญหาในการพัฒนา และนำไปสู่การเลื่อนวางจำหน่ายเพราะเกมยังอยู่ในสภาพที่ไม่พร้อม ดังนั้นระบบนี้ก็จะมาช่วยเสริมความมั่นใจว่าเกมนั้นผ่านการทดสอบมาแล้วอย่างดี และยังสามารถ “เก็บข้อมูลเพิ่มเติมได้” ซึ่งบ่งชี้ว่าระบบนี้อาจจะเปิดช่องทางให้มนุษย์เข้ามาทดสอบเกมร่วมกับ AI โดยการทดสอบของมนุษย์แต่ละครั้ง ก็จะถูกเก็บข้อมูลเพื่อนำไปปรับปรุงตัวโมเดลให้มีความแม่นยำขึ้นกว่าเดิม

ทั้งนี้ก็ต้องรอติดตามกันว่า Google จะทำให้ระบบนี้เกิดขึ้นจริงในวันใด ซึ่งถ้ามีความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ เราก็จะมารายงานให้ทราบอีกครั้ง

อ้างอิง : https://www.gamingdose.com/news/google-%E0%B8%88%E0%B8%94%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B8%B4%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B9%88-%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%A3/

—————————————————————————————-

ทั้งหมดเป็นข่าวที่น่าสนใจใน  24-30 มีนาคม 2565 พบกันใหม่ในสัปดาห์หน้านะคะ : )

หากมีข้อสงสัย ติชมสามารถ ติดตามและสอบถามได้ที่
 : AIไทยสามารถ โดย AI for all Thailand



เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

อนุญาตทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • Always Active

บันทึก