ข่าว AI รอบโลก – สัปดาห์ที่ 1 เดือนเมษายน 2023

จัดงานศพแบบใหม่ คืนชีพบรรพบุรุษด้วย AI ในงานเชงเม้ง มานั่งคุยกับญาติ ดีหรือเปล่า?!

จีนจัดงานศพแบบใหม่ ใช้ AI ประมวลผล คืนชีพคนที่ตายไปแล้วให้กลับมานั่งคุยกับคนที่ยังอยู่ พูดคุยโต้ตอบกันได้ปกติ บางคนถึงกับร้องไห้ เมื่อได้ยินเสียงคนที่รักอีกครั้ง

วันที่ 6 เมษายน 2566 เว็บไซต์ Says รายงานว่า บริษัทรับจัดงานศพแห่งหนึ่งในจีน ได้ใช้เทคโนโลยี AI (Artificial Intelligence) เพื่อให้คนในครอบครัวสามารถสื่อสารพูดคุยโต้ตอบได้กับบรรพบุรุษที่เสียชีวิตไปแล้ว โดยผ่านการประมวลผลของเสียงและไฟล์ภาพเท่านั้น ทั้งนี้การปลุกบรรพบุรุษให้ขึ้นมาคุยกับญาติได้ จะใช้กระบวนการ Machine Learning พร้อมกับเอาภาพและเสียงที่บันทึกไว้ของผู้ตาย มาทำเป็นอวตาร ซึ่งเมื่อทำออกมาแล้วจะมีลักษณะคล้ายกับบรรพบุรุษของเราจริง ๆ การให้บริการนี้ ก็เพื่อที่จะให้เราสามารถสื่อสารกับคนที่เรารักได้อีกครั้ง

เรื่องนี้กลายเป็นประเด็นที่มีการถกเถียงกันไปหลากหลาย ในช่วงเทศกาลเชงเม้ง ที่เป็นเทศกาลที่ลูกหลานจะไปทำความสะอาดหลุมศพและไหว้บรรพบุรุษ จึงเป็นโอกาสให้บริษัทรับจัดงานศพ ใช้โปรแกรม AI อย่าง chatGPT และ Midjourney มาสร้างตัวตนของบรรพบุรุษของเรา ซึ่งจะมีความคล้ายคลึงทั้งในด้านบุคลิก หน้าตา เสียง และแม้กระทั่งความทรงจำ เพื่อให้เราสามารถกลับไปใช้เวลาร่วมกันได้อีกครั้ง

ด้านบริษัทเซี่ยงไฮ้ ฝูโชวหยุน บริษัทรับจัดงานศพ ได้ให้บริการคืนชีพบรรพบุรุษ โดยเริ่มทำเป็นครั้งแรกเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ซึ่งผู้ที่เสียชีวิตนั้นคือนายแพทย์ อู๋ เหมิงเจ้า หมอผ่าตัดชาวจีนชื่อดัง ที่เหล่าบรรดาลูกศิษย์และคนใกล้ชิด รู้สึกเสียใจที่ไม่ได้มีโอกาสบอกลาเขาเป็นครั้งสุดท้าย โดยที่ AI สามารถประมวลผลออกมาและทำให้เขาดูเหมือนฟื้นคืนชีพ และกลับมายิ้มแย้มกับทุกคนได้จริง ๆ “ตอนนี้มีคนไข้ในโรงพยาบาลเยอะไหม ? การดูแลพยาบาลดีขึ้นไหม ? ทุกคนเป็นอย่างไรบ้าง” ซึ่งหลังจากที่หลายคนได้ยินเสียงคุณหมออู๋ ก็เริ่มร้องไห้ออกมา

ในขณะเดียวกัน นายอู๋ อู่หลิว บล็อกเกอร์ชื่อดัง ยังได้ออกมาแชร์ประสบการณ์ที่เหมือนกับเขาได้คืนชีพคุณยายของเขา โดยที่นายอู่หลิวบอกว่า เขาได้จำลองคุณยายขึ้นมาใหม่โดยการใช้ chatGPT, AI Painting และสังเคราะห์เสียง ซึ่งในคลิปนั้น จะเห็นได้ว่าเขาสามารถพูดคุยเรื่องราวทั่วไปในชีวิตประจำวันกับคุณยาย ทั้งเรื่องในบ้าน เรื่องพ่อ หรือกระทั่งถามว่าคุณยายได้ซื้ออะไรเป็นของฝากในงานตรุษจีน

ในขณะเดียวกัน บริษัทรับจัดงานศพที่ใช้ AI คืนชีพคนที่ตายไปแล้วนั้น ได้รับผลตอบรับที่ดีเมื่อมีบริการนี้ขึ้นมา และพวกเขาตั้งเป้าว่าต้องการที่จะใช้เทคโนโลยีนี้เพื่อช่วยให้ทุกคนได้กล่าวอำลาคนที่จากไป “เราหวังว่าจะทำให้คนที่อยู่เข้าใจว่า ความตายไม่ใช่จุดจบของชีวิต คนต้องการใช้ AI เพื่อคืนชีพให้คนที่ตาย เพราะพวกเขาต้องการปลดปล่อยอารมณ์ที่ค้างคา แต่นี่จะเป็นปัญหาหากการคืนชีพคนที่รัก ทำให้เรายิ่งจมดิ่งกับความทุกข์มากขึ้น”

อ้างอิง :  https://hilight.kapook.com/view/232244

อ้าว! Midjourney เตรียมยกเลิกการใช้งานฟรี เนื่องจากมีการละเมิดกฎ สร้างภาพปลอมของโดนัลด์ ทรัมป์ และโป๊ปฟรานซิสเสี่ยงของ Crypto ก่อนลิสต์ขึ้นบนกระดาน

Midjourney โปรแกรมสร้างภาพโดย AI เตรียมยกเลิกการใช้งานฟรีชั่วคราว หลังพบว่ามีการละเมิดกฎการใช้งาน ซึ่งเรื่องนี้กำลังเป็น Viral ในต่างประเทศอย่างดุเดือด เพราะดันมีคนทำภาพ Deepfake ของ โดนัลด์ ทรัมป์ถูกจับกุม และสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสสวมเสื้อโค้ทจนดูไฮแฟชัน

David Holz ผู้ก่อตั้งและซีอีโอ Midjourney ได้ออกมากล่าวถึงเหตุผลที่ต้องปิดการใช้งานฟรีชั่วคราว จนกว่าเราจะมีการปรับปรุงระบบครั้งต่อไป เนื่องจากพบปริมาณการสมัครใหม่ เพื่อเข้ามาทดลองใช้งานสร้างรูปภาพ Deepfake ที่ไม่เหมาะสมจำนวนมากกว่าปกติ และมีการนำภาพของ โป๊ปฟรานซิส หรือพระสันตะปาปา มาแต่งเติมโดย Midjourney ที่กำลังสวมเสื้อโค้ท และชุดไฮแฟชันอีกเพียบจนกลายเป็นความบันเทิงในโลกโซเชียลมีเดีย รวมไปถึงอีกบุคคลดังระดับโลกที่ได้รับเสียงฮือฮาอย่างล้นหลาม ต่างพากันชอบใจไม่น้อย เพราะภาพนี้คือ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ กำลังจะถูกจับกุมในนิวยอร์กพร้อมถูกตำรวจไล่ล่า

แต่ถึงอย่างนั้นการสร้างภาพปลอมขึ้นมาอาจทำให้ ผู้ไม่หวังดีนำรูปภาพจาก Midjourney, DALL-E ของ OpenAI หรือโปรแกรมอื่น ๆ ไปสร้างภาพที่มีความคล้ายคลึงกันในทางที่ผิดได้ ทั้งการแพร่กระจายข้อมูลที่เป็นเท็จ หรือโน้มน้าวความคิดเห็น และทำลายชื่อเสียง จึงขอยุติการใช้งานฟรีชั่วคราว พร้อมนโยบายใหม่ที่ปกติเราสามารถใช้งานได้ฟรี แต่ตอนนี้ผู้ใช้ Midjourney ต้องจ่ายเงินรายเดือน เริ่มต้นที่ 10 ดอลลาร์ต่อเดือน จนถึงราคา 60 ดอลลาร์เพื่อการใช้งาน

อ้างอิง : https://droidsans.com/deepfake-viral-ai-misinformation-midjourney-stops-free-trials/

WIZ.AI เปิดตัว TalkGPT โซลูชันสร้างความผูกพันกับลูกค้าสำหรับธุรกิจตัวแรกของอาเซียนที่ขับเคลื่อนโดย ChatGPT

วิซดอทเอไอ (WIZ.AI) ผู้นำระดับโลกด้านโซลูชันสร้างความผูกพันกับลูกค้าที่ขับเคลื่อนโดยปัญญาประดิษฐ์ (AI) เปิดตัว ทอล์กจีพีที (TalkGPT) โซลูชันพลัง generative AI ครบวงจรตัวแรกของอาเซียนเพื่อสร้างความผูกพันกับลูกค้า ทอล์กจีพีทีได้รับการออกแบบมาเพื่อปฏิวัติการเข้าถึงลูกค้าทั่วทั้งอุตสาหกรรม โดยโซลูชันดังกล่าวใช้ประโยชน์จากโมเดลภาษาขนาดใหญ่ของแชทจีพีที (ChatGPT) และความชำนาญในท้องถิ่นของวิซดอทเอไอในการนำเสนอประสบการณ์การสนทนาแบบหลายช่องทางที่ลื่นไหลไม่มีสะดุด

ทอล์กจีพีที เป็นโซลูชันบริการตนเองที่ผู้ใช้งานสามารถสร้าง ทดสอบ และติดตั้งทอล์กบอท (Talkbot) ของวิซดอทเอไอซึ่งขับเคลื่อนด้วยพลังของแชทจีพีทีได้ภายใน 5 นาที ซึ่งแคมเปญต่าง ๆ สามารถดำเนินการได้เลยภายในไม่กี่คลิก ทอล์กจีพีทีจะสร้างบทสนทนาแบบไดนามิกและข้อความบนวอตส์แอปป์ (WhatsApp) ขึ้นมาโดยอัตโนมัติ จากนั้น แคมเปญการติดต่อสื่อสารที่ได้รับการออกแบบแล้วจะถูกส่งโดยทอล์กบอทของวิซดอทเอไอ โซลูชันเรือธงของบริษัทที่เข้าใจและตอบสนองต่อลูกค้าได้ราวกับเป็นมนุษย์ การสร้างความผูกพันกับลูกค้าที่ถูกปรับแต่งให้เหมาะสมเหล่านี้ ซึ่งอ้างอิงจากแนวปฏิบัติที่ได้รับการพิสูจน์แล้วจากข้อมูลที่ได้จากโมเดลภาษาของแชทจีพีที จะสร้างข้อความโน้มน้าวใจและสะท้อนอารมณ์ความรู้สึกออกมาได้ ผลลัพธ์ที่ได้จากกระบวนการดังกล่าวคือ ประสบการณ์การสนทนาที่น่าดึงดูดยิ่งขึ้นสำหรับผู้ใช้งานและลูกค้า

เนื่องจากทอล์กจีพีทีมีได้รับการพัฒนาขึ้นบนรากฐานของแพลตฟอร์มของวิซดอทเอไอ ทอล์กจีพีทีจึงสามารถมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้ามากกว่า 1 ล้านคนได้ในเวลาเพียง 1 ชั่วโมง สิ่งนี้ทำให้ทอล์กจีพีทีเป็นโซลูชันที่เหมาะสมสำหรับความพยายามในการขยายฐานลูกค้าขนาดใหญ่ ด้วยศักยภาพของทอล์กจีพีที บริษัทต่าง ๆ สามารถสร้างความผูกพันกับลูกค้าได้ผ่านช่องทางที่หลากหลาย อันจะนำไปสู่การตอบสนองต่อลูกค้าได้อย่างทันท่วงที และยกระดับผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) หัวใจสำคัญของการเข้าถึงธุรกิจทุกประเภทของทอล์กจีพีทีคือ ความเป็นกระบวนการบริการตนเองทั้งหมดทั้งในด้านการสร้างไอเดีย การทำซ้ำ และการนำไปใช้กับแคมเปญการสร้างความผูกพันกับลูกค้า

อ้างอิง : https://www.infoquest.co.th/news/2023-FD224337D2437CB9A096A351086D619D

สุดโรแมนติก ! แชทบอท AI ช่วยเขียนคำสาบานงานแต่งงาน ให้ออกมาหวานซึ้ง

บริษัทสตาร์ทอัพวางแผนงานแต่งงาน เปิดตัวเครื่องมือที่ใช้แชทบอท AI ช่วยเขียนคำกล่าวสุนทรพจน์ หรือคำสาบานในงานแต่งงานให้แก่คู่บ่าวสาว เลือกโทนภาษาได้ด้วยว่าต้องการโรแมนติกแค่ไหน
“ขอบคุณพระเจ้าที่สร้างเธอขึ้นมาด้วยความรัก ส่งเธอมาให้ฉัน และรักฉัน” การกล่าวคำสาบานในงาน เป็นหนึ่งพิธีการในงานแต่งงานที่คู่รักชาวคริสต์น่าจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ทั้งเจ้าบ่าว เจ้าสาว จะผลัดกันพูดคำสาบาน คำมั่นสัญญาให้แก่กันเพื่อกล่าวถึงความรักของพวกเขา แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถพูดคำกล่าวเหล่านั้นออกมาได้ ไม่ใช่ไม่รัก แต่การเรียบเรียงความรู้สึกที่เอ่อล้นออกมานั้นเป็นเรื่องค่อนข้างยาก จึงมีตัวช่วยดี ๆ สำหรับผู้ที่ต้องการเตรียมคำกล่าวไว้ล่วงหน้า โดยใช้แชทบอทเป็นตัวช่วยในการร่างคำกล่าวให้

งานแต่งงานเป็นงานที่สำคัญที่สุดในชีวิตของใครหลายคน อบอวลไปด้วยความรัก ความโรแมนติก ซึ่งทุกคนก็คงอยากทำให้งานนี้ออกมาสมบูรณ์แบบ “จอย” (Joy) บริษัทสตาร์ทอัพจากประเทศสหรัฐอเมริกา ได้พัฒนาเครื่องมือที่ใช้เทคโนโลยีแชทบอท AI มาช่วยในการร่างสุนทรพจน์ที่สำคัญที่สุดในชีวิต

เครื่องมือนี้ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยเขียนคำสาบาน และคำกล่าวสุนทรพจน์ในงานแต่งงาน รวมถึงข้อความที่เกี่ยวข้องกับงานแต่งงานอื่น ๆ เช่น เรื่องราวความรักของคู่บ่าวสาว คำขอบคุณแขกที่มาร่วมงาน หรือแม้กระทั่งคำปฏิเสธคำเชิญงานแต่งงานอย่างสุภาพ

นอกจากนี้ผู้ใช้งานยังสามารถเลือกใช้โทนของภาษาที่ต้องการได้ ระบบก็สามารถสร้างบทพูดเหล่านั้นได้ตามที่ต้องการ เช่น หากคุณต้องการจะเป็นวิลเลียม เชกสเปียร์ หรือตัวละครอื่น ๆ ที่มีชื่อเสียง แชทบอทก็จะช่วยสร้างข้อความที่เหมาะกับบทบาทนั้นให้กับคุณได้

บริษัทผู้พัฒนาได้มองหาเทคโนโลยีที่ช่วยลดขั้นตอนต่าง ๆ ของคู่รักในการจัดเตรียมงานแต่งงานให้น้อยลง เพื่อให้โฟกัสกับที่สิ่งที่สำคัญจริง ๆ คือ กันและกัน และจากผลสำรวจพบว่า 89% ของคู่รักค่อนข้างหนักใจที่จะเขียนบทพูดเกี่ยวกับงานแต่งงาน และผู้ใช้งาน 28% อยากทดลองใช้งานแชทบอทพื่อเพิ่มความรวดเร็วในการเขียนคำสาบาน

เครื่องมือที่ใช้แชทบอทมาช่วยเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับงานแต่งงานนี้เป็นสัญญาณที่แสดงให้เห็นว่าบริษัทต่าง ๆ กำลังนำเอาความสามารถของระบบปัญญาประดิษฐ์เข้ามาช่วยพัฒนาเพื่อให้เกิดเป็นเครื่องมือใหม่ ๆ ที่สร้างประโยชน์ให้กับผู้ใช้มากขึ้น

อ้างอิง : https://www.thaipbs.or.th/news/content/326070

Bing chatbot กำลังจะเพิ่มโฆษณาให้มากขึ้น

Microsoft ยืนยันว่าจะมีโฆษณาเพิ่มเติมเข้ามาในแชทบอทที่ขับเคลื่อนด้วย AI ของ Bing โดย Yusuf Mehdi รองประธานบริษัท Microsoft กล่าวในบล็อกว่า บริษัทกำลัง “สำรวจการวางโฆษณาในประสบการณ์การใช้แชท”

“ใช่ โฆษณาจะแสดงใน Bing รูปแบบใหม่ โดยเฉพาะในการแชท (เช่นเดียวกับในผลการค้นหาแบบเดิม)” Caitlin Roulston ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารของ Microsoft กล่าวในแถลงการณ์ต่อ The Verge “เนื่องจาก Bing ใหม่นั้นอยู่ในการช่วงพรีวิว จึงอาจมีการเปลี่ยนแปลงบางประการในการแสดงข้อมูลในปัจจุบัน เรายังคงสำรวจโอกาสใหม่ๆ สำหรับประสบการณ์โฆษณา และจะแบ่งปันให้มากขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป”

Microsoft ได้ทดสอบโฆษณาใน Bing มาระยะหนึ่งแล้ว โดยมีรายงานว่าได้หารือกับเอเจนซี่โฆษณาในเดือนกุมภาพันธ์ โฆษณายังเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์การแชทตั้งแต่ตัวอย่างที่เปิดตัวในเดือนกุมภาพันธ์ โดยปรากฏเป็นลิงก์ผู้สนับสนุนและภายในผลการช็อปปิ้ง หากคุณต้องการทราบว่าโฆษณาใหม่อาจมีลักษณะอย่างไร ลองดูตัวอย่างนี้ที่ Debarghya Das แบ่งปันจากข้อความค้นหาเกี่ยวกับรถยนต์ฮอนด้าราคาถูก หลังจากสองประโยค มีการอ้างอิงพร้อมกล่อง “โฆษณา” ขนาดเล็กที่ดูเหมือนจะเชื่อมโยงกลับไปที่ Bing

ประเด็นก็คือ เรายังไม่ทราบปริมาณโฆษณาที่เราอาจเห็น หรือวิธีที่ Microsoft จะเลือกว่าจะแสดงโฆษณาหรือให้คำตอบโดยตรงจากผู้เผยแพร่หรือเว็บไซต์ ในบล็อกโพสต์ Mehdi กล่าวว่า Microsoft ต้องการ “แบ่งปันรายได้จากโฆษณากับคู่ค้าซึ่งมีเนื้อหาที่สนับสนุนการตอบกลับแชท” แต่นั่นไม่ได้ตอบคำถามเกี่ยวกับความสมดุลที่ Microsoft วางแผนที่จะหยุดทำงานระหว่างการตอบกลับด้วยโฆษณาและไม่ใช่โฆษณา ไม่ว่าความสมดุลนั้นจะเป็นอย่างไร การรวมโฆษณาจะเพิ่มภาระที่ยากอยู่แล้วในการพิจารณาว่าคุณสามารถเชื่อถือการตอบสนองที่กำหนดได้หรือไม่

อ้างอิง : https://www.theverge.com/2023/3/29/23662476/microsoft-bing-chatbot-ads-revenue-sharing

AI กำลังเข้าสู่ยุคของการถูกควบคุมโดยองค์กรขนาดใหญ่

รายงานประจำปีเกี่ยวกับความก้าวหน้าของ AI ได้เน้นย้ำถึงการครอบงำที่เพิ่มขึ้นของผู้เล่นในอุตสาหกรรมเหนือสถาบันการศึกษาและรัฐบาลในการปรับใช้และปกป้องแอปพลิเคชัน AI

ดัชนี AI ประจำปี 2023 ซึ่งรวบรวมโดยนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดและบริษัทด้าน AI รวมถึง Google, Anthropic และ Hugging Face บ่งชี้ว่าโลกของ AI กำลังเข้าสู่ขั้นตอนใหม่ของการพัฒนา ในปีที่ผ่านมา เครื่องมือ AI จำนวนมากกลายเป็นกระแสหลัก ตั้งแต่แชทบอทอย่าง ChatGPT ไปจนถึงซอฟต์แวร์สร้างภาพอย่าง Midjourney แต่การตัดสินใจเกี่ยวกับวิธีการใช้เทคโนโลยีนี้และวิธีสร้างสมดุลระหว่างความเสี่ยงและโอกาสนั้นอยู่ในมือของผู้เล่นระดับองค์กร

ความต้องการทรัพยากรที่เพิ่มขึ้นของการพัฒนา AI ได้เปลี่ยนสมดุลของอำนาจไปสู่ผู้เล่นในองค์กรอย่างมั่นคง ผู้เชี่ยวชาญหลายคนในโลกของ AI กังวลว่าสิ่งจูงใจของโลกธุรกิจจะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่เป็นอันตรายเช่นกัน เนื่องจากบริษัทต่าง ๆ รีบออกผลิตภัณฑ์และกีดกันความกังวลด้านความปลอดภัยในความพยายามที่จะเอาชนะคู่แข่ง นี่เป็นเหตุผลหนึ่งที่ผู้เชี่ยวชาญหลายคนกำลังเรียกร้องให้มีการชะลอตัวหรือแม้กระทั่งหยุดการพัฒนา AI ชั่วคราว เช่นเดียวกับจดหมายเปิดผนึกที่ลงนามโดยบุคคลสำคัญรวมถึง Elon Musk เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

ผู้เขียนรายงานทราบว่าในขณะที่ผู้เล่นในอุตสาหกรรมใช้แอปพลิเคชัน AI เป็นหลัก จำนวนเหตุการณ์ของการใช้ในทางที่ผิดทางจริยธรรมก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน (The AI, Algorithmic, and Automation Incidents and Controversies Repository, ซึ่งเป็นดัชนีของเหตุการณ์เหล่านี้ ระบุว่าเพิ่มขึ้น 26 เท่าระหว่างปี 2021 ถึง 2012) เหตุการณ์ดังกล่าวรวมถึงการเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับซอฟต์แวร์ที่ขับเคลื่อนด้วยตนเองของ Tesla การใช้เสียงปลอมในการหลอกลวงขององค์กร การสร้างภาพเปลือย Deepfake ที่ไม่ได้รับความยินยอม และหลายกรณีของการจับกุมที่ผิดพลาดซึ่งเกิดจากซอฟต์แวร์จดจำใบหน้าที่ผิดพลาด ซึ่งมักเกิดจากอคติทางเชื้อชาติ

รายงานระบุว่าความสนใจในกฎระเบียบ AI จากผู้ออกกฎหมายและผู้กำหนดนโยบายกำลังเพิ่มขึ้น การวิเคราะห์บันทึกกฎหมายใน 127 ประเทศพบว่า จำนวนร่างกฎหมายที่มีคำว่า “ปัญญาประดิษฐ์” เพิ่มขึ้นจากเพียงฉบับเดียวในปี 2559 เป็น 37 ฉบับที่ผ่านในปี 2565 ในสหรัฐอเมริกา การตรวจสอบข้อเท็จจริงในระดับรัฐก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยมีห้าฉบับดังกล่าว ร่างกฎหมายที่เสนอในปี 2558 ถึงร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับ AI 60 ฉบับที่เสนอในปี 2565 ความสนใจที่เพิ่มขึ้นดังกล่าวอาจให้น้ำหนักถ่วงต่อการกำกับดูแลตนเองขององค์กร

อ้างอิง : https://www.theverge.com/23667752/ai-progress-2023-report-stanford-corporate-control

หน่วยงานกำกับดูแลของอิตาลีสั่งแบน ChatGPT เนื่องจากถูกกล่าวหาว่าละเมิดกฎหมายความเป็นส่วนตัวของข้อมูล

รายงานประจำปีเกี่ยวกับความก้าวหน้าของ AI ได้เน้นย้ำถึงการครอบงำที่เพิ่มขึ้นของผู้เล่นในอุตสาหกรรมเหนือสถาบันการศึกษาและรัฐบาลในการปรับใช้และปกป้องแอปพลิเคชัน AI

ดัชนี AI ประจำปี 2023 ซึ่งรวบรวมโดยนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดและบริษัทด้าน AI รวมถึง Google, Anthropic และ Hugging Face บ่งชี้ว่าโลกของ AI กำลังเข้าสู่ขั้นตอนใหม่ของการพัฒนา ในปีที่ผ่านมา เครื่องมือ AI จำนวนมากกลายเป็นกระแสหลัก ตั้งแต่แชทบอทอย่าง ChatGPT ไปจนถึงซอฟต์แวร์สร้างภาพอย่าง Midjourney แต่การตัดสินใจเกี่ยวกับวิธีการใช้เทคโนโลยีนี้และวิธีสร้างสมดุลระหว่างความเสี่ยงและโอกาสนั้นอยู่ในมือของผู้เล่นระดับองค์กร

ความต้องการทรัพยากรที่เพิ่มขึ้นของการพัฒนา AI ได้เปลี่ยนสมดุลของอำนาจไปสู่ผู้เล่นในองค์กรอย่างมั่นคง ผู้เชี่ยวชาญหลายคนในโลกของ AI กังวลว่าสิ่งจูงใจของโลกธุรกิจจะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่เป็นอันตรายเช่นกัน เนื่องจากบริษัทต่าง ๆ รีบออกผลิตภัณฑ์และกีดกันความกังวลด้านความปลอดภัยในความพยายามที่จะเอาชนะคู่แข่ง นี่เป็นเหตุผลหนึ่งที่ผู้เชี่ยวชาญหลายคนกำลังเรียกร้องให้มีการชะลอตัวหรือแม้กระทั่งหยุดการพัฒนา AI ชั่วคราว เช่นเดียวกับจดหมายเปิดผนึกที่ลงนามโดยบุคคลสำคัญรวมถึง Elon Musk เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

ผู้เขียนรายงานทราบว่าในขณะที่ผู้เล่นในอุตสาหกรรมใช้แอปพลิเคชัน AI เป็นหลัก จำนวนเหตุการณ์ของการใช้ในทางที่ผิดทางจริยธรรมก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน (The AI, Algorithmic, and Automation Incidents and Controversies Repository, ซึ่งเป็นดัชนีของเหตุการณ์เหล่านี้ ระบุว่าเพิ่มขึ้น 26 เท่าระหว่างปี 2021 ถึง 2012) เหตุการณ์ดังกล่าวรวมถึงการเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับซอฟต์แวร์ที่ขับเคลื่อนด้วยตนเองของ Tesla การใช้เสียงปลอมในการหลอกลวงขององค์กร การสร้างภาพเปลือย Deepfake ที่ไม่ได้รับความยินยอม และหลายกรณีของการจับกุมที่ผิดพลาดซึ่งเกิดจากซอฟต์แวร์จดจำใบหน้าที่ผิดพลาด ซึ่งมักเกิดจากอคติทางเชื้อชาติ

เมื่อเครื่องมือ AI แพร่หลายมากขึ้น จึงไม่แปลกใจเลยที่จำนวนข้อผิดพลาดและกรณีการใช้งานที่เป็นอันตรายจะเพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยตัวของมันเองไม่ได้บ่งชี้ถึงการขาดการป้องกันที่เหมาะสม แต่หลักฐานอื่นๆ บ่งชี้ความเชื่อมโยง เช่น แนวโน้มที่บริษัทอย่าง Microsoft และ Google จะตัดทีมด้านความปลอดภัยและจริยธรรมของ AI ออก

รายงานระบุว่าความสนใจในกฎระเบียบ AI จากผู้ออกกฎหมายและผู้กำหนดนโยบายกำลังเพิ่มขึ้น การวิเคราะห์บันทึกกฎหมายใน 127 ประเทศพบว่า จำนวนร่างกฎหมายที่มีคำว่า “ปัญญาประดิษฐ์” เพิ่มขึ้นจากเพียงฉบับเดียวในปี 2559 เป็น 37 ฉบับที่ผ่านในปี 2565 ในสหรัฐอเมริกา การตรวจสอบข้อเท็จจริงในระดับรัฐก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยมีห้าฉบับดังกล่าว ร่างกฎหมายที่เสนอในปี 2558 ถึงร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับ AI 60 ฉบับที่เสนอในปี 2565 ความสนใจที่เพิ่มขึ้นดังกล่าวอาจให้น้ำหนักถ่วงต่อการกำกับดูแลตนเองขององค์กร

อ้างอิง : https://www.theverge.com/2023/3/31/23664451/italy-bans-chatgpt-over-data-privacy-laws

Meta เปิดตัว AI ที่สามารถแยกแยะวัตถุในรูปภาพได้

Meta บริษัทแม่ของ Facebook ได้เปิดตัวโมเดลปัญญาประดิษฐ์ที่สามารถแยกแยะวัตถุในรูปภาพและวิดีโอได้แม้จะไม่เคยสอนให้ AI รู้จักวัตถุนั้นมาก่อนก็ตาม

บริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ต่างประโคมข่าวความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ เนื่องจากแชทบอทอย่าง ChatGPT ของ OpenAI ที่ได้รับการสนับสนุนจาก Microsoft กลายเป็นที่ฮือฮาตั้งแต่ช่วงเปิดตัวตั้งแต่ฤดูใบไม้ร่วง และก่อให้เกิดกระแสการแข่งขันและลงทุนเพื่อครองตลาดนี้

ขณะที่ทาง Meta ได้แสดงให้เห็นฟีเจอร์หลายอย่างที่ใช้ Generative AI เทคโนโลยีเดียวกับที่ ChatGPT ใช้ โดยฝ่ายวิจัยของบริษัทกล่าวในบล็อกโพสต์ว่าโครงการ Segment Anything Model หรือ SAM สามารถแยกแยะวัตถุในรูปภาพและวิดีโอได้แม้จะไม่เคยสอนให้ AI รู้จักวัตถุนั้นมาก่อนก็ตาม โดยผู้ใช้สามารถเลือกวัตถุได้โดยการคลิกหรือพิมพ์ข้อความ ประโยชน์ของการใช้โมเดล SAM สามารถนำไปต่อยอดงานพัฒนาได้ในหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นการแยกแยะวัตถุแบบเรียลไทม์ หรือนำระบบจับวัตถุไปใช้กับการตัดต่อวิดีโอ หรืองานวิจัยอื่น ๆ

Mark Zuckerberg ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกล่าวว่าการรวม Generative AI เข้ากับแอปของ Meta นั้นถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องทำเป็นลำดับแรกในปีนี้ เดิมทีทาง Meta ได้ใช้เทคโนโลยีที่มีความคล้ายกับ SAM อยู่แล้วสำหรับกิจกรรมต่างๆ เช่น การแท็กรูปภาพ กลั่นกรองเนื้อหาต้องห้าม และกำหนดว่าโพสต์ใดที่จะแนะนำแก่ผู้ใช้ Facebook และ Instagram อย่างไรก็ตามบริษัทเผยว่าการเปิดตัวของ SAM จะขยายการเข้าถึงเทคโนโลยีประเภทนี้ยิ่งขึ้นไปอีก โมเดล SAM และชุดข้อมูลต่างๆ จะพร้อมให้ดาวน์โหลดภายใต้ใบอนุญาตที่ไม่ใช่เชิงพาณิชย์ โดยผู้ใช้ที่อัปโหลดภาพของตนเองไปยังโมเดลนี้จะต้องยินยอมที่จะใช้ภาพดังกล่าวเพื่อวัตถุประสงค์ในการวิจัยเท่านั้น

อ้างอิง : https://www.posttoday.com/international-news/692742

—————————————————————————————-

ทั้งหมดเป็นข่าวที่น่าสนใจใน  30 มีนาคม – 6 เมษายน 2566 พบกันใหม่ในสัปดาห์หน้านะคะ : )

หากมีข้อสงสัย ติชมสามารถ ติดตามและสอบถามได้ที่
 : AIไทยสามารถ โดย AI for all Thailand



เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

อนุญาตทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • Always Active

บันทึก