ข่าว AI รอบโลก – สัปดาห์ที่ 3 เดือนเมษายน 2023

Adobe เปิดตัว Firefly เครื่องมือ AI สร้างคลิปวิดีโอ พิมพ์คำสั่งแล้วเสกวิดีโอมาเลย

Adobe เปิดตัว Firefly for Video เครื่องมือสร้างวิดีโอด้วย generative AI พิมพ์สั่งว่าต้องการวิดีโอแบบไหนยังไง แล้วเสกออกมาเป็นคลิปให้ได้เลย

ก่อนหน้านี้ Adobe เพิ่งเปิดตัว Firefly เวอร์ชันภาพนิ่ง โดยสร้างได้เฉพาะภาพนิ่งและข้อความ โมเดลเทรนมาจากคลังภาพของ Adobe Stock ทำให้ไม่มีปัญหาลิขสิทธิ์เหมือนกับโมเดลสร้างภาพตัวอื่นๆ

คราวนี้ Firefly เวอร์ชันวิดีโอทำงานลักษณะเดียวกัน คือ ค้นหาคลิปจากคลังวิดีโอของ Adobe Stock มาใส่ข้อความแอนิเมชัน เอฟเฟคต์ ปรับแต่งสี ใส่เสียงประกอบ ฯลฯ ผู้ใช้งานสามารถพิมพ์สั่งที่ prompt ให้เปลี่ยนโทนสีของคลิป (change it to golden hour) หรือเลือกเพลงประกอบในโทนสดใสได้

เท่านั้นยังไม่พอ Firefly สามารถอ่านสคริปต์แล้วสร้างเป็นสตอรี่บอร์ดแบบคร่าวๆ ให้ดูตัวอย่างวิดีโอก่อนได้ด้วย Adobe บอกว่าจะเริ่มทยอยปล่อยฟีเจอร์บางส่วนของ Firefly เข้ามายังแอพในชุด Creative Cloud ภายในปีนี้

อ้างอิง :  https://www.blognone.com/node/133463

ธนาคารญี่ปุ่นหันมาใช้ AI Chatbot ช่วยพนักงานทำเอกสาร ตอบคำถามลูกค้า

สามธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดในภาคการเงินการธนาคารญี่ปุ่น เริ่มเอา AI Chatbot แบบ ChatGPT มาช่วยพนักงานทำเอกสาร ตอบคำถามลูกค้า พร้อมพัฒนาระบบ AI ของตัวเอง เพื่อความปลอดภัยและความถูกต้องของข้อมูล

Mitsubishi UFJ Financial Group (MUFG) จะเริ่มใช้ AI Chatbot ในช่วงฤดูร้อนนี้ กับการร่างคำขออนุมัติ (Approval Request) การตอบคำถามทั่วไป โดยหวังว่า AI จะช่วยให้พนักงานใช้เวลาทำงานน้อยลงและสบายมากขึ้นเมื่อต้องจัดการเอกสาร ทั้งนี้เพื่อป้องกันข้อมูลรั่วไหล ข้อมูลของพนักงานจะถูกแยกออกจากข้อมูลที่ใช้เทรน AI และจะปิดกั้นการเข้าถึงจากภายนอก MUFG ยังมองถึงการร่วมมือกับ Microsoft Japan เพื่อพัฒนาโมเดล AI ให้ตอบโจทย์การทำงานขององค์กรและการถามตอบคำถามจากลูกค้า

Sumitomo Mitsui Financial Group (SMFG) ร่วมกับ The Japan Research Institute, NEC Corporation และ Microsoft Japan สร้าง AI Chatbot ของตัวเองในชื่อ SMBC-GPT บน Microsoft Azure ให้มาช่วยพนักงานทำงาน โดยวางแผนจะเปิดให้พนักงานทั้งองค์กรใช้ช่วงฤดูใบไม้ร่วงนี้ โดย AI ของ SMFG จะสามารถตอบคำถามพนักงาน อ้างอิงจากข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณะและข้อมูลของธนาคารเป็นเจ้าของ และจะถูกพัฒนาให้สามารถปรับปรุงการร่างบังคับทางธุรกิจหรือรวบรวมข้อมูลพื้นฐานของลูกค้าเพื่อช่วยร่างเอกสาร และตอบคำถามด้านการเงินกับลูกค้าด้วยการใช้ข้อมูลเช่น Market trend ที่วิเคราะห์โดย AI และธนาคาร

แน่นอนในด้านความถูกต้องและความปลอดภัย พนักงานจะได้รับการอบรมให้พิจารณาคำตอบที่ AI ให้มา ก่อนจะนำไปใช้ และ Chatbot นี้จะถูกจำกัดให้อยู่ในเครือข่ายส่วนตัว (Private Network) ของธนาคารเท่านั้น

อีกเจ้าหนึ่งที่วางแผนจะร่วมมือกับ Microsoft Japan ก็คือ Mizuho Financial Group (MFHG) โดยจะทดลองใช้เครื่องมือ AI ในการทำงานภายในองค์กรและพัฒนา Chatbot ของตัวเอง ทั้งนี้เพื่อป้องกันข้อมูลที่ละเอียดอ่อน

ก่อนหน้านี้หลายบริษัทใหญ่ในญี่ปุ่นเสียงแตกออกเป็นสองฝ่ายเรื่องการใช้ AI ในที่ทำงาน โดยเฉพาะสำหรับกลุ่มธนาคารที่ถือข้อมูลสำคัญของลูกค้าไว้ ทั้ง Mizuho Financial Group, MUFG Bank และ Sumitomo Mitsui Banking จึงห้ามไม่ให้พนักงานใช้ ChatGPTเพื่อป้องกันการรั่วไหลของข้อมูลสำคัญ และหันมาพัฒนา AI Chatbot ของตัวเองแทน

อ้างอิง : https://techsauce.co/news/japanese-bank-use-ai-chatbot-to-lighten-workload

ซีอีโอกูเกิลเตือนให้สังคมเตรียมพร้อมรับผลกระทบจาก AI

นายซันดาร์ พิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทกูเกิลและอัลฟาเบทให้สัมภาษณ์ในรายการ “60 Minutes” ของสถานีโทรทัศน์ช่องซีบีเอส ที่ออกอากาศเมื่อวันอาทิตย์ (16 เม.ย.) ว่า “ทุกผลิตภัณฑ์ของทุกบริษัท” จะได้รับผลกระทบจากการพัฒนาอย่างรวดเร็วของปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) พร้อมเตือนว่า สังคมจำเป็นต้องเตรียมความพร้อม เพื่อรับมือกับเทคโนโลยีชนิดเดียวกับแชตบอตเอไอ “บาร์ด” (Bard) ที่กูเกิลเพิ่งเปิดตัวไปเมื่อไม่นานมานี้

นายพิชัย ระบุว่า “สังคมต้องปรับตัวรับมือกับเอไอ” พร้อมกล่าวเสริมว่า ตำแหน่งงานที่จะได้รับผลกระทบเชิงลบจากเอไอจะรวมถึง “ผู้ที่ใช้ปัญญาในการทำงาน” เช่น นักเขียน, นักบัญชี, สถาปนิก และแม้กระทั่งวิศวกรซอฟต์แวร์

“เทคโนโลยีเอไอนี้จะส่งผลกระทบต่อทุกผลิตภัณฑ์ของทุกบริษัท” นายพิชัย กล่าว พร้อมระบุต่อว่า “ยกตัวอย่างเช่น คุณอาจเป็นรังสีแพทย์ในอีกประมาณ 5 หรือ 10 ปีข้างหน้า โดยมีเอไอเป็นผู้ร่วมงานของคุณ คุณเริ่มงานในตอนเช้า โดยที่มีภารกิจที่ต้องทำเป็นร้อยอย่าง แต่เอไออาจแนะนำคุณว่าภารกิจใดสำคัญที่สุด และควรจัดการเป็นอันดับแรก”

นอกจากนี้ นายพิชัย ยังเตือนด้วยว่า ขนาดของปัญหาเรื่องข้อมูลเท็จ รวมถึงข่าว และภาพปลอมจะรุนแรงกว่าปัจจุบันมาก โดยจะก่อให้เกิดภัยคุกคามได้

สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า กูเกิลเปิดตัวบาร์ดในฐานะผลิตภัณฑ์ทดลองต่อสาธารณชนเมื่อเดือนมี.ค. หลังจากที่ไมโครซอฟท์ประกาศในเดือนม.ค.ว่าจะใช้เทคโนโลยี GPT ของโอเพ่นเอไอ (OpenAI) ในบิง (Bing) ระบบเสิร์ชเอนจินของทางบริษัท โดยเทคโนโลยี GPT ได้รับความสนใจในระดับโลก หลังเปิดตัวแชตจีพีที (ChatGPT) ในปี 2565

อ้างอิง : https://www.bangkokbiznews.com/world/1063456

ฝ่ายนิติบัญญัติของสหภาพยุโรปเรียกร้องให้มีการประชุมเพื่อควบคุม AI

สมาชิกสภานิติบัญญัติของอียู 12 คนซึ่งทั้งหมดทำงานเกี่ยวกับกฎหมายของสหภาพยุโรปเกี่ยวกับเทคโนโลยี ได้เรียกร้องให้ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯ และประธานคณะกรรมาธิการยุโรปเออร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเยน เรียกประชุม และกล่าวว่าบริษัท AI ควรมีความรับผิดชอบมากกว่านี้

คำแถลงดังกล่าวเกิดขึ้นหลายสัปดาห์หลังจาก Elon Musk เจ้าของ Twitter และผู้นำด้านเทคโนโลยีมากกว่า 1,000 รายเรียกร้องให้มีการหยุดชั่วคราวเป็นเวลา 6 เดือนสำหรับการพัฒนาระบบที่มีประสิทธิภาพมากกว่าระบบล่าสุดของ OpenAI ของ OpenAI ของ ChatGPT ซึ่งสามารถเลียนแบบมนุษย์และสร้างข้อความ และรูปภาพตามคำแนะนำได้

จดหมายเปิดผนึกฉบับนั้นซึ่งตีพิมพ์ในเดือนมีนาคมโดย Future of Life Institute (FLI) ได้เตือนว่า AI สามารถแพร่กระจายข้อมูลที่ผิดพลาดในอัตราที่ไม่เคยมีมาก่อน และเครื่องจักรสามารถ “เพิ่มจำนวนมากขึ้น ชิงไหวชิงพริบ และแทนที่มนุษย์” หากปล่อยไว้โดยไม่ตรวจสอบ

จดหมายดังกล่าวกระตุ้นให้ประเทศทั้งที่เป็นประชาธิปไตยและ “ไม่เป็นประชาธิปไตย” ไตร่ตรองเกี่ยวกับระบบการปกครองที่มีศักยภาพ และใช้ความยับยั้งชั่งใจในการแสวงหา AI ที่ทรงพลังมากขึ้น

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หน่วยงานกำกับดูแลด้านไซเบอร์สเปซของจีนได้เปิดเผยร่างมาตรการสำหรับจัดการบริการ เอไอ โดยระบุว่าต้องการให้บริษัทต่างๆ ส่งการประเมินความปลอดภัยไปยังทางการก่อนที่จะเปิดตัวข้อเสนอต่อสาธารณะ

ฝ่ายบริหารของ Biden ยังขอความคิดเห็นสาธารณะเกี่ยวกับมาตรการควบคุมที่เป็นไปได้สำหรับระบบ AI เนื่องจากมีคำถามเกี่ยวกับผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติและการศึกษา

ด้านคณะกรรมาธิการยุโรปเสนอร่างกฎสำหรับกฎหมาย AI เมื่อเกือบสองปีที่แล้ว ซึ่งเครื่องมือ AI นั้นคาดว่าจะถูกจัดประเภทตามระดับความเสี่ยงที่มองเห็น ตั้งแต่ต่ำไปจนถึงยอมรับไม่ได้ ซึ่งคณะกรรมาธิการกำลังอภิปรายร่างกฎหมาย 108 หน้าและหวังว่าจะได้ความเห็นร่วมกันภายในวันที่ 26 เมษายนนี้

อ้างอิง : https://www.posttoday.com/international-news/693238

รายงานเผย Google จะปล่อยเสิร์ชเอนจินพลัง AI โฉมใหม่ในเดือนหน้า

สำนักข่าว The New York Times รายงานว่า Google จะปล่อยเสิร์ชเอนจินพลังปัญญาประดิษฐ์ตัวใหม่ในเดือนพฤษภาคม ส่วนฟีเจอร์เพิ่มเติมจะปล่อยในช่วงฤดูใบไม้ร่วง

อย่างไรก็ดี เสิร์ชเอนจินตัวใหม่จะเปิดให้บริการเฉพาะในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น และจะมีผู้ที่ใช้งานได้เต็มที่เพียงแค่ 1 ล้านคน
โดยยังไม่มีการเผยรายละเอียดว่าเทคโนโลยีใหม่จะมีความสามารถอะไรบ้าง รู้แต่เพียงว่า Google กำลังพัฒนาเสิร์ชเอนจินนี้ภายใต้ชื่อรหัส Magi
ขณะที่ เจมส์ วินเซนต์ (James Vincent) แห่งเว็บไซต์ The Verge เชื่อว่ามันน่าจะใช้เทคโนโลยีของแชตบอต Bard
นอกจากนี้ รายงานยังระบุว่า Google กำลังวางแผนจะปรับปรุงเสิร์ชเอนจินครั้งใหญ่ แต่ไม่มีการระบุกรอบระยะเวลาการพัฒนาที่แน่ชัด

อ้างอิง : https://www.beartai.com/news/itnews/1240636

“Heart on My Sleeve” เพลงแต่งโดย AI หลอกว่าเป็น Drake มีคนฟังกว่าหลายล้านคน

ดูเหมือนเพลงใหม่ของ Drake ที่ได้ร่วมทำกับ The Weeknd ที่มีชื่อว่า “Heart on My Sleeve” นั้นกำลังดังกระหึ่มบน TikTok และ Spotify จนมีคนเข้าไปฟังจำนวนหลายล้านคน ซึ่งมันไม่น่าใช่เรื่องที่แปลกใจเลย เว้นแต่ว่าคนที่จะปล่อยเพลงออกมานั้นบอกว่ามัน “ถูกสร้างโดย AI”

เพลงนี้ปรากฏตัวครั้งแรกใน TikTok ที่เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาโดยโปรดิวเซอร์ชื่อว่า “Ghostwriter” ซึ่งปัจจุบันมียอดวิวมากกว่า 9 ล้านครั้ง ข้อความของวิดีโอระบุว่า “ฉันใช้ AI เพื่อสร้างเพลง Drake ft. the weeknd” Ghostwriter สวมผ้าปูที่นอนสีขาวและสวมแว่นกันแดดในขณะที่เล่นเพลง “Heart on My Sleeve” เขาได้โพสต์ TikToks อีกหลายครั้งเพื่อโปรโมทเพลงและดูเหมือนว่าเขาตั้งใจที่จะต่อสู้ทางกฎหมายโดยมีข้อความที่เขาพิมพ์ว่า “POV: สัมผัสกับ GHOSTWR! TER & Drake นี้ก่อนจะเกิดการฟ้องร้อง” บางวิดีโอนั้นจะมีลิงก์เพื่อดาวน์โหลดเพลงและมันจะพาไปยังแพลตฟอร์มที่ชื่อว่า Laylo ซึ่งจะขอหมายเลขโทรศัพท์ของพวกเขา

สิ่งที่น่าสังเกตคือเราไม่สามารถแยกแยะเสียงร้องได้จริงๆ หากไม่มีข้อมูลเพิ่มเติม เนื่องจากเสียงร้องของ “Heart on My Sleeve” นั้นฟังดูเหมือน Drake และ The Weeknd มากๆ ก็อาจเป็นสิ่งที่ผู้สร้างสามารถพูดได้อย่างแน่นอนว่า นี่เป็นเพลงฮิตแรกที่สร้างโดย AI อย่างแท้จริง

จนถึงตอนนี้ผู้คนต่างอินไปกับเพลงที่ถูก AI นั้นแต่งขึ้น ผู้คนโพสต์ TikTok มากกว่าพันรายได้นำไปสร้างคลิปวิดีโอของพวกเขาโดยใช้เพลงนี้ โดยส่วนใหญ่เป็นคลิปที่แสดงความคิดเห็นว่าเพลงนั้นดีขนาดไหน อย่างไรก็ตามมีเรื่องจำนวนมากที่เราไม่รู้เกี่ยวกับเพลงที่ถูกอ้างว่าถูกแต่งด้วย AI นี้ รวมถึงว่าเพลงนั้นสร้างโดย AI จริงๆ หรือไม่ บางทีอาจจะเป็นเพลงจริงของซุปเปอร์สตาร์ชาวแคนาดา Drake ซึ่งเปิดตัวในชื่อ “AI” แล้วเรื่องทั้งหมดนี้อาจจะเป็นวิธีทางการตลาดก็เป็นได้

แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับวิธีการทำเพลง แต่ Ghostwriter อ้างว่าพวกเขาเขียนและโปรดิวซ์เพลง แล้วทำการแทนที่เสียงร้องของเพลงด้วยเสียงของ Drake และ The Weeknd เทคโนโลยีการสลับเสียงของ AI นั้นดีขึ้นเรื่อยๆ และรีมิกซ์ไวรัลล่าสุดที่ใช้ AI เพื่อสร้างเวอร์ชั่นใหม่ของเพลงฮิตอย่าง “Munch” ของ Ice Spice ที่มีเสียงร้องของ Drake นั้นดึงดูดความสนใจเป็นอย่างมาก จนใน Instagram ของ Drake เขาได้ให้ความคิดเห็นกับเพลงนี้ว่า “นี่คือฟางเส้นสุดท้าย AI” “เสียงร้องใน Heart on My Sleeve ฟังดูสมจริงกว่าในคัฟเวอร์ AI ของ Munch ซะอีก”

อ้างอิง : https://www.vice.com/en/article/wxj5gw/heart-on-my-sleeve-ai-ghostwriter-drake

Microsoft กำลังพัฒนาชิป AI ของตัวเองซึ่งอาจจะมาแข่งขันกับ Nvidia ในอนาคต

มีรายงานว่า Microsoft กำลังทำงานกับชิป AI ของตัวเองที่สามารถใช้เพื่อฝึกโมเดลภาษาขนาดใหญ่และหลีกเลี่ยงการพึ่งพา Nvidia ที่มีค่าใช้จ่ายสูง โดยข้อมูลรายงานว่า Microsoft ได้พัฒนาชิปอย่างลับๆ ตั้งแต่ปี 2019 และพนักงานของ Microsoft และ OpenAI บางส่วนสามารถเข้าถึงชิปเหล่านี้แล้วเพื่อทดสอบว่าชิปเหล่านี้ทำงานได้ดีเพียงใดสำหรับโมเดลภาษาขนาดใหญ่ล่าสุดอย่าง GPT-4

Nvidia เป็นซัพพลายเออร์หลักของชิปเซิร์ฟเวอร์ AI ในขณะนี้ โดยบริษัทต่าง ๆ ต่างแย่งกันซื้อชิปเหล่านี้ และประมาณการว่า OpenAI จะต้องการ GPU A100 ของ Nvidia มากกว่า 30,000 ตัวใช้ใน ChatGPT ซึ่ง H100 GPUs ล่าสุดของ Nvidia ขายในราคามากกว่า $40,000 บน eBay แสดงให้เห็นถึงความต้องการชิประดับไฮเอนด์ที่สามารถช่วยปรับใช้ซอฟต์แวร์ AI

ในขณะที่ Nvidia ก็ได้ทำเร่งการผลิตชิปให้ได้มากที่สุดเพื่อตอบสนองความต้องการเหล่านั้น ทาง Microsoft ก็วางแผนที่จะทำการผลิตเองและหวังว่าจะสามารถประหยัดเงินในการผลักดัน AI ของตนได้ มีรายงานว่า Microsoft เร่งพัฒนาโค้ดเนม Athena ซึ่งเป็นโครงการสร้างชิป AI ของตัวเอง แม้ว่าจะไม่ชัดเจนว่า Microsoft จะให้บริการชิปเหล่านี้แก่ลูกค้า Azure cloud ของตนหรือไม่ แต่ผู้ผลิตซอฟต์แวร์กำลังวางแผนที่จะทำให้ชิป AI ของตนพร้อมใช้งานในวงกว้างมากขึ้นภายในในช่วงต้นปีหน้า

ชิป AI ของ Microsoft เองไม่ได้กล่าวกันว่าเป็นการทดแทนโดยตรงสำหรับ Nvidia แต่ความพยายามภายในองค์กรสามารถลดค่าใช้จ่ายลงได้อย่างมาก เนื่องจาก Microsoft ยังคงผลักดันการเปิดตัวฟีเจอร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ใน Bing, แอป Office, GitHub และที่อื่น ๆ

หาก Microsoft กำลังทำงานบนชิป AI ของตัวเอง มันจะเป็นชิปรุ่นล่าสุดในกลุ่มบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี ซึ่งแม้ว่าทาง Amazon, Google และ Meta ล้วนมีชิปสำหรับ AI ในตัว แต่หลายบริษัทยังคงใช้ชิป Nvidia เพื่อขับเคลื่อนโมเดลภาษาขนาดใหญ่ล่าสุดอยู่ดี

อ้างอิง : https://www.theverge.com/2023/4/18/23687912/microsoft-athena-ai-chips-nvidia

Elon Musk กล่าว กำลังพัฒนา ‘TruthGPT’ ซึ่งเป็น ‘AI ที่แสวงหาความจริงสูงสุด’

Elon Musk กล่าวว่าเขากำลังทำงานกับ “TruthGPT” ซึ่งเป็นทางเลือกของ ChatGPT ที่ทำหน้าที่เป็น “AI ที่ค้นหาความจริงสูงสุด” เขาได้แสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับคู่แข่งด้าน AI ในระหว่างการให้สัมภาษณ์กับ Tucker Carlson จาก Fox News โดยกล่าวว่าจำเป็นต้องมีวิธีการทางเลือกอื่นในการสร้าง AI เพื่อหลีกเลี่ยงการทำลายมนุษยชาติ

“ผมจะเริ่มทำบางอย่างที่เรียกว่า TruthGPT หรือ AI ที่แสวงหาความจริงสูงสุดที่พยายามเข้าใจธรรมชาติของจักรวาล” Musk กล่าว “และฉันคิดว่านี่อาจเป็นเส้นทางที่ดีที่สุดเพื่อความปลอดภัย ในแง่ที่ว่า AI ที่ใส่ใจในการทำความเข้าใจจักรวาลไม่น่าจะทำลายล้างมนุษย์ได้ เพราะเราเป็นส่วนที่น่าสนใจของจักรวาล”

Musk ตีกรอบ TruthGPT ว่าเป็นการแก้ไขหลักสูตรของ OpenAI ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ AI ที่ไม่หวังผลกำไรที่เขาช่วยสร้าง ซึ่งต่อมานั้นมาก็ได้เริ่มดำเนินการในบริษัทสาขาที่แสวงหาผลกำไร เขาวางตำแหน่ง “TruthGPT” เป็นตัวเลือกที่โปร่งใสมากขึ้นเมื่อเทียบกับ OpenAI

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ Musk ครุ่นคิดเกี่ยวกับการสร้าง “TruthGPT” เขาทวีตเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ว่า “สิ่งที่เราต้องการคือ TruthGPT” ในขณะเดียวกันก็เรียกร้องความสนใจไปที่ความเสี่ยงของโมเดล AI ขนาดใหญ่ เช่นเดียวกับที่สร้างโดย Open AI ซึ่ง Musk และนักวิจัยด้าน AI คนอื่นๆ ได้ลงนามในจดหมายเปิดผนึกเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เพื่อกระตุ้นให้บริษัทต่างๆ หยุด “การทดลอง AI ขนาดยักษ์” ที่ผู้สร้างของพวกเขาไม่สามารถ “เข้าใจ คาดการณ์ หรือควบคุมได้อย่างน่าเชื่อถือ”

ยังไม่ชัดเจนว่าแท้จริงแล้ว “TruthGPT” ของ Musk เป็นอย่างไร แต่ดูเหมือนว่าเขาจริงจังกับเรื่องนี้จริง ๆ เพราะเขาพูดถึงแบบจำลองในระหว่างการสัมภาษณ์กับ Carlson เขาบอกว่าเขาได้ก่อตั้งบริษัท AI แห่งใหม่อย่างเงียบๆ ชื่อว่า X.AI ในเดือนมีนาคม

อ้างอิง : https://www.theverge.com/2023/4/17/23687440/elon-musk-truthgpt-ai-chatgpt

—————————————————————————————-

ทั้งหมดเป็นข่าวที่น่าสนใจใน  14 – 20 เมษายน 2566 พบกันใหม่ในสัปดาห์หน้านะคะ : )

หากมีข้อสงสัย ติชมสามารถ ติดตามและสอบถามได้ที่
 : AIไทยสามารถ โดย AI for all Thailand



เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

อนุญาตทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • Always Active

บันทึก