ข่าว AI รอบโลก – สัปดาห์ที่ 2 เดือน พฤษภาคม 2023

เชื่อได้มากกว่า ChatGPT? IBM เปิดตัว watsonx จับ AI ให้องค์กรใช้ทั่วโลก

ยักษ์ใหญ่สีฟ้า “ไอบีเอ็ม” (IBM) เปิดตัว “วัตสัน เอ็กซ์” (watsonx) จับ AI ลงแพลตฟอร์มข้อมูลใหม่เพื่อให้องค์กรมีระบบปัญญาประดิษฐ์ที่ปรับขนาดได้และประยุกต์ได้ ระบุองค์กรแห่งอนาคตจำเป็นต้องสามารถสร้าง AI บนข้อมูลที่เชื่อถือได้ และควรใช้ประโยชน์จากข้อมูลนั้นได้ทุกที่ที่เหมาะสม เป็นเหตุผลที่ทำให้ IBM สร้าง watsonx ขึ้น

คิตแมน ฉาง (Kitman Cheung) ผู้อำนวยการฝ่ายขายด้านเทคนิค ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก บริษัท ไอบีเอ็ม เทคโนโลยี กล่าวว่า AI สำหรับธุรกิจจำเป็นต้องมีความแม่นยำและความน่าเชื่อถือ สิ่งเหล่านี้มีความสำคัญสูงสุดในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งแม้ว่า AI จะได้รับการพัฒนาให้ก้าวล้ำในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา แต่ยังมีความท้าทายในเรื่องการขยายขนาดและการนำมาใช้ในการปฏิบัติงานจริง โดยแต่ละครั้งที่มี use case ใหม่ ก็จะต้องทำการออกแบบและสร้างโมเดลใหม่สำหรับชุดข้อมูลนั้นๆ วันนี้องค์กรจึงยังไม่มีความพร้อมมากพอ ยังไม่แน่ใจว่าจะนำ AI มาช่วยสร้างประโยชน์ให้กับองค์กรอย่างไร อีกทั้งยังมีความกังวลเกี่ยวกับจริยธรรมและความปลอดภัยของการนำ generative AI และ foundation models มาใช้ในธุรกิจ

“เรากำลังพยายามแก้ปัญหาทางธุรกิจ ดังนั้นมันจึงเป็นสิ่งสำคัญที่แพลตฟอร์มนี้จะต้องช่วยให้ลูกค้าเปิดตัวโมเดลได้อย่างแม่นยำ ปรับขยายได้ และประยุกต์ได้ และนั่นคือเหตุผลที่เรารู้สึกว่า นี่เป็นเวลาที่เหมาะสมในการเปิดตัว watsonx”

ในทางทฤษฎี watsonx คือแพลตฟอร์ม AI และ data ใหม่ของไอบีเอ็ม ที่เปิดให้ผู้ใช้ที่เป็นองค์กรธุรกิจนักวิเคราะห์ข้อมูล และนักพัฒนาฯ สามารถเข้าถึงโมเดลพื้นฐานหรือ foundation models และเครื่องมือสำหรับสร้างและใช้งานแมชชีนเลิร์นนิงทั้งแบบดั้งเดิมและแบบใหม่ด้วยข้อมูลของตัวเองได้อย่างปลอดภัย โดยแพลตฟอร์ม watsonx จะประกอบด้วย 3 เครื่องมือสำคัญ เครื่องมือที่ 1 คือ IBM watsonx.ai ซึ่งเป็นเครื่องมือ AI พร้อมใช้สำหรับองค์กรสำหรับการฝึก ตรวจสอบ ปรับใช้ และติดตั้งโมเดล AI ซึ่งรวมถึง foundation models ที่ขับเคลื่อน generative AI โดยโมเดลเหล่านี้ไม่เพียงแค่ได้รับการฝึกกับโมเดลภาษาขนาดใหญ่ แต่ยังรวมถึงข้อมูลที่เก็บรวบรวมตามระยะเวลาเป็นช่วงๆ อย่างต่อเนื่องกัน (time-series data) ข้อมูลที่ได้รับการจัดเก็บในรูปแบบคอลัมน์หรือตาราง ข้อมูลเชิงพื้นที่ และข้อมูลเหตุการณ์ไอทีต่างๆ โดยตัวอย่างโมเดลที่ได้รับการพัฒนาไว้แล้ว

เครื่องมือที่ 2 คือ IBM watsonx.data เป็น data lakehouse ที่ได้รับการปรับให้เหมาะสำหรับข้อมูลที่ถูกกำกับดูแล (governed data) และเวิร์คโหลด AI ต่างๆ และเครื่องมือที่ 3 คือ IBM watsonx.governance ซึ่งเป็นโซลูชัน end-to-end สำหรับการกำกับดูแล data และ AI governance

อ้างอิง :  https://mgronline.com/cyberbiz/detail/9660000043262

ตำรวจจีนรวบตัวชายถูกกล่าวหาใช้ ChatGPT แพร่ข่าวปลอม ชี้เป็นคดี AI รายแรก

ตำรวจจีนจับกุมตัวชายคนหนึ่งในข้อหาใช้ แชตจีพีที (ChatGPT) ซึ่งเป็นโมเดลปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อสร้างและเผยแพร่บทความข่าวปลอมเกี่ยวกับอุบัติเหตุรถไฟชนกัน ซึ่งคดีนี้เชื่อกันว่าจะเป็นกรณีแรกของการบังคับใช้กฎหมายในประเทศจีนภายใต้กฎหมายใหม่ที่เกี่ยวข้องกับปัญญาประดิษฐ์
คดีนี้ได้บ่งชี้ถึงความพยายามของรัฐบาลจีนในการกำกับดูแลและควบคุมการใช้ AI เนื่องจากเทคโนโลยีดังกล่าวมีความก้าวหน้ามากขึ้น

สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า ตำรวจในมณฑลกานซูที่อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีนได้เข้าจับกุมตัวชายแซ่หงคนหนึ่ง ซึ่งพวกเขากล่าวหาว่า สร้างข่าวปลอมเกี่ยวกับอุบัติเหตุรถไฟชนกันที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 9 คน
เจ้าหน้าที่พบว่า บัญชีต่าง ๆ มากกว่า 20 บัญชีได้โพสต์ข่าวปลอมนี้บนแพลตฟอร์มบล็อกของไป่ตู้ (Baidu) ซึ่งเป็นยักษ์ใหญ่ด้านการสืบค้นข้อมูลของจีน และได้รับการเข้าชมมากกว่า 15,000 ครั้ง

ทั้งนี้ ชายแซ่หงดังกล่าวได้ถูกจับกุมภายใต้กฎหมายใหม่ที่จีนเริ่มใช้ในปีนี้ว่าด้วย “เทคโนโลยีการสังเคราะห์เชิงลึก” เป็นคดีแรก ซึ่งรวมถึงการใช้ AI เพื่อสร้างข้อความ รูปภาพ วิดีโอ หรือสื่ออื่น ๆ โดยที่ตัวกฎหมายระบุว่า “ห้ามใช้บริการการสังเคราะห์เชิงลึก”เพื่อเผยแพร่ข่าวปลอม
จีนร่างกฎหมายดังกล่าวเพื่อรับมือกับความนิยมที่เพิ่มขึ้นของ ChatGPT ขณะที่รัฐบาลจีนต้องการนำหน้าในเทคโนโลยีดังกล่าว ขณะที่อินเทอร์เน็ตของจีนได้ถูกตรวจสอบและควบคุมอย่างหนักด้วย

อ้างอิง : https://www.infoquest.co.th/2023/299469

ลงสนามแข่งอีกราย ‘iFlytek’ จากจีน เปิดตัว Generative AI ชื่อว่า ‘SparkDesk’ ตั้งเป้าเทียบชั้น ChatGPT

เว็บไซต์ Global Times รายงานว่า iFlytek บริษัทปัญญาประดิษฐ์ (AI) ของจีน เปิดตัว SparkDesk ซึ่งเป็น Generative AI ที่ทางบริษัทพัฒนาขึ้น โดยความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นท่ามกลางบริษัทเทคโนโลยีอื่นๆ ของจีนในการเปิดตัวโซลูชัน ChatGPT ของตนเอง

Liu Qingfeng ประธาน iFlytek เปิดตัว SparkDesk เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (6 พฤษภาคม) ผ่านการสาธิตสดในเมืองเหอเฟย มณฑลอันฮุย ทางตะวันออกของจีน โดย Liu ใช้การจดจำเสียงเพื่อขอให้ SparkDesk ประเมินเรียงความของนักเรียน และเขียนเรื่องราวสมมติฐานเกี่ยวกับการเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกปี 2008 ที่กรุงปักกิ่งของขงจื๊อ โดยการสาธิตยังเปิดโอกาสให้ผู้ชมได้ร่วมตั้งคำถามต่อ SparkDesk อีกทางหนึ่งด้วย

ประธาน iFlytek กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้าที่จะพัฒนาขีดความสามารถของ ChatGPT เวอร์ชันภาษาจีนให้สมบูรณ์ภายในวันที่ 24 ตุลาคม โดยจะบรรลุในระดับที่ใกล้เคียงกับภาษาอังกฤษที่มีการใช้งานกันอยู่ในปัจจุบัน

Liu ย้ำอีกว่า Generative AI จะสร้างผลกระทบที่มีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าการกำเนิดของ PC หรือ Internet โดยจีนจำเป็นต้องพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อเรียนรู้จาก ChatGPT
ยิ่งไปกว่านั้น Liu คาดว่ากำไรสุทธิของ iFlytek จะเพิ่มขึ้นมากกว่า 30% ต่อปี โดยเริ่มตั้งแต่ปี 2023 ที่มีการขับเคลื่อนโดยเทคโนโลยี AI

อ้างอิง : https://thestandard.co/iflytek-sparkdesk-generative-ai/

ผู้เชี่ยวชาญกล่าว 1 ใน 4 ของงานจะถูกแทนที่ด้วย AI แนะนำงานบางประเภทที่จะรอด ?

รายงานเดือนมีนาคม 2023 จาก Goldman Sachs ประมาณการว่า AI สามารถทำงานได้ 1 ใน 4 ของงานทั้งหมดที่มนุษย์ทำอยู่ในปัจจุบัน รายงานระบุเพิ่มเติมว่าในสหภาพยุโรปและสหรัฐอเมริกา มีตำแหน่งงาน 300 ล้านตำแหน่งอาจหายไปจากระบบอัตโนมัติ โชคดีที่ไม่ใช่ข่าวร้ายทั้งหมด ผู้เชี่ยวชาญออกมาบอกว่า ยังมีสิ่งที่ AI ไม่สามารถทำได้ นั่นคืองานที่เกี่ยวข้องกับคุณสมบัติของมนุษย์อย่างชัดเจน เช่น ความฉลาดทางอารมณ์และการคิดนอกกรอบ และการย้ายเข้าสู่บทบาทที่เน้นทักษะเหล่านี้อาจช่วยลดโอกาสในการถูกแทนที่ได้

“ผมคิดว่าโดยทั่วไปมีสามประเภทที่จะไม่ถูกแย่งงานโดย AI ในอนาคตอันใกล้” Martin Ford ผู้เขียน Rule of the Robots: How Artificial Intelligence Will Transform Everything กล่าว “อย่างแรกคืองานที่มีความคิดสร้างสรรค์อย่างแท้จริง คุณไม่ได้ทำงานที่มีสูตรสำเร็จหรือแค่จัดเรียงสิ่งต่างๆ ใหม่ แต่คุณกำลังคิดหาไอเดียใหม่ๆ และสร้างสิ่งใหม่ๆ อย่างแท้จริง”

งานประเภทที่สองนั้นคืองานที่ต้องใช้ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลที่ซับซ้อน เขาชี้ไปที่พยาบาล ที่ปรึกษาทางธุรกิจ และนักข่าวเชิงสืบสวน เขากล่าวว่างานเหล่านี้คือ “งานที่คุณต้องการความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับผู้คน ฉันคิดว่าคงอีกนานก่อนที่ AI จะสามารถโต้ตอบในรูปแบบต่างๆ ที่สร้างความสัมพันธ์ได้จริงๆ”

และงานรูปแบบที่สาม Ford กล่าวว่า “เป็นงานที่ต้องใช้ความคล่องตัวและความคล่องแคล่วเป็นอย่างมาก และความสามารถในการแก้ปัญหาในสภาพแวดล้อมที่คาดเดาไม่ได้” งานการค้าจำนวนมาก เช่น ช่างไฟฟ้า ช่างประปา ช่างเชื่อม และอื่นๆ ในลักษณะเดียวกันนี้ “งานเหล่านี้เป็นงานประเภทที่คุณต้องรับมือกับสถานการณ์ใหม่ตลอดเวลา” เขากล่าวเสริม “พวกมันน่าจะเป็นสิ่งที่ยากที่สุดในการทำให้เป็นอัตโนมัติ ในการทำให้งานเป็นไปโดยอัตโนมัติเช่นนี้ คุณจะต้องมีหุ่นยนต์นิยายวิทยาศาสตร์ คุณต้องมี C-3PO ของ Star Wars”

กล่าวโดยย่อ การแสวงหางานในสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลง (dynamics) ซึ่งรวมถึงงานที่คาดเดาไม่ได้เป็นวิธีที่ดีในการป้องกันการสูญเสียงานให้กับ AI อย่างน้อยก็ในช่วงเวลาที่จะถึงไม่นานนี้

อ้างอิง : https://www.bbc.com/worklife/article/20230507-the-jobs-ai-wont-take-yet

Wendy’s เครือฟาสต์ฟู้ดชื่อดัง ทดสอบแชทบอท AI รับออเดอร์ drive-thru

Wendy’s เครือร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดนานาชาติสัญชาติอเมริกันชื่อดังกำลังร่วมมือกับ Google เพื่อสร้างแชทบอท AI ที่สามารถรับคำสั่งซื้อผ่านช่องทาง Drive-Thru โดยเครือข่ายร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดแห่งนี้มีแผนที่จะนำ “Wendy’s FreshAI” ที่แบบ Drive-Thru นี้ไปให้บริการยังร้านอาหารในโคลัมบัส รัฐโอไฮโอได้เป็นครั้งแรกในเดือนมิถุนายน

โดยแชทบอทของพวกเขาจะสามารถรับคำสั่งด้วยการฟังจากลูกค้าที่ต่อคิวที่ตู้ Drive-Thru โดยหวังว่าจะช่วยลดเวลาการรอ Wendy ทำงานร่วมกับ Google เพื่อสร้างแชทบอทที่ปรับแต่งให้เหมาะกับโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) ของบริษัทที่มีอยู่ ทั้งหมดนี้ดำเนินไปพร้อมกับการผลักดัน AI ของ Google

ในแถลงการณ์นั้น Thomas Kurian CEO ของ Google Cloud ยอมรับความท้าทายบางประการที่เกี่ยวข้องกับการใช้ AI chatbot ที่ Drive-Thru บอทจะต้องไม่สนใจเสียงใดๆ ที่ได้ยินจากเด็กที่เบาะหลังของรถ เป็นต้น และจะต้องรับมือกับลูกค้าที่เปลี่ยนใจในระหว่างที่สั่งอาหารด้วย “คุณอาจคิดว่าการขับรถผ่านและการพูดคุยกับ Drive-Thru เป็นปัญหาที่ง่ายสำหรับ AI แต่จริง ๆ แล้วนี่เป็นหนึ่งในปัญหาที่ยากที่สุด” Kurian กล่าวกับ WSJ

พนักงานของ Wendy’s จะคอยตรวจสอบ Drive-Thru ที่ขับเคลื่อนด้วย AI เมื่อเริ่มทดสอบในเดือนมิถุนายน เพื่อให้แน่ใจว่าลูกค้าจะไม่มีปัญหาการใช้งาน ลูกค้าจะมีตัวเลือกในการพูดคุยกับมนุษย์ หาก AI ไม่สามารถทำตามคำสั่งของตนได้ ในขณะที่แชทบอท AI ควรจะทำทุกอย่างที่มนุษย์ทำได้ รวมถึงการต่อยอดการขายของร้าน แต่ Wendy’s บอก WSJ ว่าไม่มีแผนที่จะแทนที่พนักงานที่มีอยู่ด้วยเทคโนโลยีนี้

“ประสบการณ์การสั่งซื้ออัตโนมัติแบบใหม่นี้ออกแบบมาเพื่อยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าและทีมงานโดยขจัดความซับซ้อนออกจากกระบวนการสั่งซื้อ เพื่อให้พนักงานสามารถมุ่งเน้นไปที่การเสิร์ฟอาหารที่รวดเร็ว สดใหม่ มีคุณภาพ และสร้างความสัมพันธ์กับแฟนๆ ที่ทำให้พวกเขากลับมาอีก” Kevin Vasconi หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายข้อมูลของ Wendy’s กล่าวในแถลงการณ์

อ้างอิง : https://www.theverge.com/2023/5/9/23716825/wendys-ai-drive-thru-google-llm

เครื่องมือค้นหารูปภาพใหม่ของ Google ช่วยคุณระบุภาพที่สร้างโดย AI

ในโลกที่เต็มไปด้วยภาพที่เหมือนจริงมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งถูกปรับแต่งด้วยเครื่องมือแก้ไข AI หรือสร้างขึ้นโดยใช้บอท AI กำเนิด เช่น Midjourney หรือ Stable Diffusion คุณจะรู้ได้อย่างไรว่ารูปภาพนั้นเป็นของจริง สิ่งหนึ่งที่สามารถช่วยได้คือเครื่องมือใหม่ที่ Google กำลังจะเปิดตัวในช่วงฤดูร้อนนี้สำหรับการค้นหาภาษาอังกฤษในสหรัฐอเมริกาที่เรียกว่า ” About this image”

ตัวอย่างเช่น รูปภาพของการลงจอดบนดวงจันทร์ปลอม ซึ่งเครื่องมือจะแสดงให้เห็นว่ารูปภาพนั้นไม่ใช่ภาพจริงอย่างไรบ้าง หากภาพของเหตุการณ์ข่าวด่วนปรากฏขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อถูกอัปโหลดไปยัง Getty, Reuters หรือ CNN นั่นก็ดูเหมือนเป็นข้อบ่งชี้ที่ยุติธรรมว่าภาพนั้นถูกต้องตามกฎหมาย แต่หากภาพที่ปรากฏครั้งแรกใน subreddit อย่างเรื่องตลกแบบสุ่มที่มีลายน้ำขององค์กรข่าวนั้น มีแนวโน้มที่จะเป็นภาพปลอมซึ่ง About this image จะเข้ามาช่วยตรงนี้ได้

และสมมติว่ามันทำงานได้ตามที่ต้องการ ทาง The Verge หวังว่าเครื่องมือประเภทนี้จะถูกคู่แข่งลอกเลียนแบบและพร้อมใช้งานอย่างรวดเร็วสำหรับผู้ที่อยู่นอกพรมแดนของสหรัฐอเมริกา เนื่องจากการแพร่กระจายของข้อมูลที่ผิดเป็นปัญหาในประเทศและภาษามากกว่าหนึ่งภาษา

Google ยังประกาศว่าเครื่องมือสร้างภาพด้วย AI ของตัวเองจะใส่ข้อมูล metadata กับแต่ละภาพเพื่อระบุว่าเป็นภาพที่สร้างโดย AI ไม่ใช่ภาพถ่าย โดยไม่คำนึงว่าคุณจะเห็นบนแพลตฟอร์มของ Google หรือไม่ นอกจากนี้ยังกล่าวว่าผู้สร้างและผู้เผยแพร่รายอื่น ๆ จะสามารถติดป้ายกำกับรูปภาพของตนโดยใช้เทคโนโลยีเดียวกันได้ แม้ว่าจะยังไม่ทราบว่าการมีส่วนร่วมจะแพร่หลายเพียงใด

อ้างอิง : https://www.theverge.com/2023/5/10/23718616/google-image-search-verification-about-this-metadata-io

IBM ประกาศเลิกจ้างพนง.7,800 ตำแหน่ง ใช้ AI เข้ามาทำแทน

IBM บริษัทผู้ผลิตคอมพิวเตอร์รายใหญ่ของโลกประกาศหยุดการจ้างงานชั่วคราวกว่า 7,800 ตำแหน่ง โดยจะใช้ AI แทน “Arvind Krishna” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือ CEO ของ IBM กล่าวว่า บริษัทคาดว่าจะมีการเลิกจ้างพนักงานในบางตำแหน่งและอาจถูกแทนที่ด้วยปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าการจ้างงานในหน้าที่หลังบ้าน

เช่น ฝ่ายทรัพยากรบุคคล จะถูกระงับหรือชะลอตัว โดยแผนกที่ไม่ต้องมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าเหล่านี้มีจำนวนพนักงานประมาณ 26,000 คน และเขามองว่า 30% ของพนักงานเหล่านี้สามารถแทนที่ด้วย AI และระบบอัตโนมัติได้ในช่วงเวลา 5 ปี นั่นหมายความว่าพนักงานประมาณ 7,800 ตำแหน่งจะถูกปลด เนื่องจากระบบปัญญาประดิษฐ์ได้พัฒนาความสามารถมากขึ้นเรื่อยๆ และสามารถทำงานแทนที่มนุษย์ได้แล้วในบางสาขาอาชีพ แต่ในการให้บริการลูกค้ายังคงต้องใช้ความสามารถของมนุษย์อยู่ ซึ่งแผนของผู้บริหาร IBM ถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ด้านแรงงานที่ใหญ่ที่สุดที่ประกาศเพื่อตอบสนองต่อเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว

ด้านโฆษกของ IBM มองว่า การลดจำนวนการจ้างงานหรือยกเลิกการจ้างงานรวมถึงการหมดสัญญาจ้าง จะทำให้เกิดตำแหน่งงานที่ว่างกว่า 7,800 ตำแหน่ง การปลดพนักงานและลดตำแหน่ง 1.5% ของพนักงานทั้งหมดเมื่อต้นปีส่งผลให้ IBM ทำกำไรเพิ่มขึ้นตามคาดการณ์ อีกทั้งยังลดภาระค่าใช้จ่ายจำนวน 2,000 ล้านดอลลาร์ต่อปี

แม้จะมีการประกาศลดและหยุดการจ้างงาน แต่ในปัจจุบันพนักงานของ IBM มีจำนวนกว่า 260,000 คนและยังเพิ่มการจ้างงานในตำแหน่งเกี่ยวกับการพัฒนาซอฟต์แวร์และตำแหน่งงานที่ต้องพบปะกับลูกค้าโดยตรง และยังคงจ้างงานเพื่อพัฒนาซอฟต์แวร์และบทบาทที่ต้องเผชิญกับลูกค้า การหาคนเก่งวันนี้ง่ายกว่าปีที่แล้ว และบริษัทประกาศลดตำแหน่งงานลงเมื่อต้นปีนี้ ซึ่งอาจมีจำนวนพนักงานประมาณ 5,000 ตำแหน่ง

อ้างอิง : https://www.tnnthailand.com/news/world/145428/

รัสเซียเปิดตัว GigaChat ปัญญาประดิษฐ์ AI คู่แข่งกับ ChatGPT

สถาบันการเงินรายใหญ่ในประเทศรัสเซีย Sberbank เปิดตัว GigaChat ปัญญาประดิษฐ์ AI คู่แข่งกับ ChatGPT พร้อมเปิดให้ผู้ใช้งานบางส่วนเข้าทำการทดสอบระบบ การเปิดตัวปัญญาประดิษฐ์ AI ของประเทศรัสเซียในครั้งนี้เกิดขึ้นภายหลังจากบริษัทเทคโนโลยีหลายแห่งในสหรัฐอเมริกาและจีน เปิดตัวปัญญาประดิษฐ์ของตัวเองนับตั้งแต่ช่วงปลายปี 2022 ที่ผ่านมา

ปัญญาประดิษฐ์ GigaChat ใช้โมเดลเครือข่ายประสาทเทียมที่เรียกว่า NeONKA (Neural Omnimodal Network with Knowledge-Awareness) รองรับการทำงานภาษารัสเซียโดยเฉพาะรองรับการเขียนโค้ด การวิเคราะห์และตอบคำถาม การสนทนาภาษารัสเซีย ค้นหาข้อมูล รวมไปถึงการสร้างรูปภาพตามคำสั่งผู้ใช้งานผ่านโมเดล Kandinsky 2.1

เป้าหมายของการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ของประเทศรัสเซียเพื่อลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากประเทศสหรัฐอเมริกาและเพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขันของประเทศ รวมไปถึงการปิดกั้นการเข้าถึงเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์จากผู้ใช้งานในรัสเซีย เช่น บริการ ChatGPT ที่ไม่เปิดให้ผู้ใช้งานจากรัสเซียใช้งานได้

ปัจจุบันทาง Sberbank เป็นสถาบันทางการเงินรายใหญ่ของประเทศและมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศรัสเซีย โดยมีทีมงานวิศวกรและผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีอยู่เป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ประโยชน์ที่ได้รับจากปัญญาประดิษฐ์ GigaChat อาจรวมไปถึงการพัฒนาระบบบริหารจัดการทางการเงินให้กับองค์กรในอนาคต อย่างไรก็ตามการพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ของประเทศรัสเซียยังคงต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่งและในตอนนี้เป็นเพียงการทดสอบช่วงเริ่มต้นเท่านั้น

อ้างอิง : https://news.trueid.net/detail/05XkgPOo3DX6

—————————————————————————————-

ทั้งหมดเป็นข่าวที่น่าสนใจใน  4 – 10 พฤษภาคม 2566 พบกันใหม่ในสัปดาห์หน้านะคะ : )

หากมีข้อสงสัย ติชมสามารถ ติดตามและสอบถามได้ที่
 : AIไทยสามารถ โดย AI for all Thailand



เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

อนุญาตทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • Always Active

บันทึก